ลี่เห็นเพื่อน ๆ ชาวออฟฟิศที่ทำงานอยู่บ้านบ่นปวดเมื่อยตัว ปวดต้นคอ หรือที่เราเรียกกันว่า ออฟฟิศซินโดรม นั่นก็เป็นเพราะว่า เรานั่งทำงานหน้าคอมในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ ไม่ได้ลุกขยับตัวไปไหน หรือเกิดจากยกของผิดท่า และนอนหลับผิดท่า จึงทำให้เกิดอาการตึงของกล้ามเนื้อ ปวดล้าบริเวณกลางหลังและปีกหลังได้ 👩
 

 
วิธีที่ช่วยลดอาการปวดหลังได้นอกจากออกกำลังกาย สร้างความแข็งแรง และยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลัง ท่านอนก็สำคัญไม่แพ้กันนะคะ ลี่ขอแชร์ 3 ท่านอนใช้หมอนหนุนลดอาการปวดหลังค่ะ
 

🌜นอนตะแคงข้างก่ายหมอน

นอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งที่ถนัด แล้วหนุนหมอนที่ศีรษะตามปกติ งอเข่าทั้งสองข้างและวางหมอนหนุนไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เข่าที่อยู่ด้านบนแตะกับที่นอน ไม่ทำให้เกิดอาการปวดหลังและสะโพกได้
 

🌜นอนหงายหนุนเข่า

ให้นอนหงายโดยการใช้หมอนหนุนที่ศีรษะ ปล่อยตัวตามสบาย ไม่ต้องเกร็ง แล้ววางหมอนหนุนอีกใบไว้ใต้หัวเข่าทั้งสองข้าง เพื่อช่วยรักษาความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง สำหรับการนอนท่านี้ เหมาะกับคนที่มีอาการปวดหลังไม่รุนแรง
 

🌜หากไม่สามารถนอนท่าอื่น ๆ ได้ ให้นอนคว่ำหนุนอกและสะโพก

โดยนำหมอนมาหนุนบริเวณช่วงคอและหน้าอกส่วนบน หันใบหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง และนำหมอนหนุนอีกใบวางไว้ใต้บริเวณสะโพก วิธีนี้จะช่วยลดความตึงของแผ่นหลังได้ หรือหากมีอาการเจ็บปวดอยู่ ให้นำหมอนหนุนที่ศีรษะออก

3 ท่านอนนี่เป็นวิธีส่วนหนึ่งที่ช่วยลดอาการปวดหลังได้เบื้องต้น หากเพื่อน ๆ มีอาการปวดหลังรุนแรง ลี่แนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ
Source : https://bit.ly/3iCz0pT , https://bit.ly/3lOUv8Y

 

มิจฉาชีพ คืออาชีพที่ผิดกฎหมาย มีรูปแบบการหลอกที่ถูกปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ซึ่งถ้าย้อนไปในอดีตจะมีตั้งแต่จดหมายลูกโซ่ แชร์ลูกโซ่ โทรมาหลอกว่าได้รับรางวัลหรือได้มรดก หลอกให้ไปเข้าร่วมเครือข่ายขายตรง ชวนลงทุน ชวนเทรดทอง เทรดหุ้น และอ้างว่าได้ผลตอบแทนที่ดี หรือหลอกให้รักให้ผูกพันจนสุดท้ายให้โอนเงินให้ ทั้งหมดนี้คือการหลอกที่เคยมีมาแล้ว และบางวิธีก็ยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่วิธีการก็จะเปลี่ยนไปเพื่อให้แนบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือหลอกให้โอนเงิน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้เท่าทันมุกของมิจฉาชีพพวกนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หรือใครที่พลาดเข้าแล้ว เราก็จะพาไปดูวิธีดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

1.หลอกให้โอนเงิน
การหลอกรูปแบบนี้จะพบได้เยอะที่สุด มีทั้ง “ติดต่อจากธนาคารxxx คุณมียอดบัตรเครดิตค้างชำระ”, “ติดต่อจากxxx คุณได้รับรางวัลใหญ่ รบกวนดำเนินการจ่ายค่าภาษีก่อนเพื่อรับของรางวัล”, “ติดต่อจากขนส่ง คุณมีพัสดุตกค้าง”, “จำเราได้มั้ย? เราคือxxxไง ที่เคยเรียนด้วยกัน มาซื้อของแบตฯหมดโอนเงินไม่ได้ ขอยืมเงินหน่อยเดี๋ยวมีแบตคืนเลย”, “ติดต่อจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน” และวิธีการล่าสุดคือหลอกให้เราโอนเงินไปแล้ว 1 รอบ แล้วสวมรอยเป็นตำรวจที่จะมาช่วยคดีอีก 1 ครั้ง เพื่อให้เราโอนเงินเพิ่มไปอีก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะหลอกให้เราโอนเงินด้วยวิธีการต่างๆ มีทั้งให้โอนตามยอดที่แจ้ง หรือถึงขั้นให้โอนไปทั้งหมดในบัญชีโดยอ้างว่าจะนำไปตรวจสอบ มีเคสตัวอย่างดังนี้ https://www.one31.net/news/detail/70367, https://www.thairath.co.th/news/crime/2794555

วิธีป้องกันมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน ตั้งสติ ระวัง สังเกต และอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ (ถ้าเป็นการหลอกให้รัก แนะนำให้ตรวจสอบถึงตัวตนจริงของบุคคลนั้นโดยใช้วิธีการสืบค้นรูปภาพบนกูเกิลอิมเมจ https://images.google.com หากพบว่ารูปโปรไฟล์ที่ใช้เป็นรูปของบุคคลอื่นสามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นมิจฉาชีพ) ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลทางการเงิน แม้กระทั่งรหัส OTP เพื่อป้องการการนำข้อมูลไปใช้ทำธุรกรรม ปรึกษาพูดคุยกับคนในครอบครัว เพื่อจะช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ จำกัดวงเงินการเบิกถอนต่อวันเพื่อลดความเสี่ยง

สามารถตรวจสอบรายชื่อ รวมถึงเลขที่บัญชีของผู้ค้าออนไลน์ เพื่อเช็กประวัติว่าเคยมีการฉ้อโกงหรือไม่ ได้ที่ https://www.blacklistseller.com/

2.หลอกให้กดลิ้งก์
มีทั้งการส่ง sms, Line, Messenger โดยทุกช่องทางจะมีการแนบลิ้งก์ให้เรากดเข้าไปเพื่อดูดเงินในบัญชีของเรา และวิธีการใหม่ล่าสุดคือการส่ง sms มาด่าเรา อ้างว่าเราไปเที่ยวกับคนที่ไม่ใช่แฟน พร้อมแนบลิ้งก์ให้กดเข้าไปดูรูป แต่จริงๆแล้วมันคือการที่ต้องการคลิกลิ้งก์เพื่อที่จะติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงินจากบัญชีของเรา

วิธีป้องกันมิจฉาชีพหลอกให้กดลิ้งก์ติดตั้งแอปดูดเงิน ห้ามคลิกลิ้งก์ต่างๆ ที่ส่งมาในทุกช่องทางโดยเด็ดขาด!

3.หลอกลงทุน
การหลอกลงทุนเกิดขึ้นในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน มีทั้งแบบแชร์ลูกโซ่ หลอกให้ไปเข้าร่วมเครือข่ายขายตรง หรือจับสินค้าที่เป็นกระแสและหลอกให้มาพรีออเดอร์สินค้าไปขายต่อ อย่างกรณีล่าสุดที่มีการหลอกพรีออเดอร์ Art Toys โดยกลลวงของมิจฉาชีพพวกนี้คือจะส่งของในล็อตแรกก่อน เพื่อสร้างความเชื่อใจกับลูกค้า พอเราเห็นว่าล็อตแรกได้ของจริง แม่ค้าก็จะลงเงินมากขึ้น เพราะช่องว่างของสินค้าประเภทนี้คือการรอสินค้านาน แม่ค้าก็ไม่อยากเสียโอกาสทำกำไรในช่วงที่กำลังมีกระแส จึงมักจะสั่งของทีเดียวในจำนวนเงินที่มาก อย่างที่เป็นข่าว https://mgronline.com/crime/detail/9670000049775

 

หรือในกรณีการหลอกลงทุนที่แนบเนียนขึ้นมากอีกขั้น คือการชวนเทรดทอง หรือการลงทุนในหุ้น โดยแอบอ้างผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการอย่าง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร หรือคุณกวี ชูกิจเกษม ที่ล้วนเป็นนักลงทุนแบบ VI (Value Investment หรือการลงทุนแบบเน้นคุณค่า) ชื่อดังของไทย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เราอยากจะประสบความสำเร็จในการลงทุนแบบบุคคลเหล่านี้ โดยรูปแบบการหลอกคือ ใช้ AI เข้ามาเพื่อสร้างความแนบเนียน อย่างเช่นโปรแกรม Deepfake เพื่อทำให้ภาพใบหน้าและเสียงของผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแนบเนียนขึ้น และยิงโฆษณาไปตามกลุ้มเป้าหมานผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก เพื่อชวนนักลงทุนแอดเข้ากรุ๊ปไลน์ เพื่อให้คำแนะนำด้านการลงทุน และหลอกเงินจากผู้ที่หลงเชื่อ อย่างที่เป็นข่าว https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1116067

 

วิธีป้องกันมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุน
ตั้งสติ ระวัง สังเกต และอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ หาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน เช่น การหาข้อมูลว่าผู้มีชื่อเสียงท่านนั้นมีเฟซบุ๊กจริงๆมั้ย? หรือ ผู้มีชื่อเสียงท่านนั้นอยู่ บริษัทหลักทรัพย์อะไร และให้ตั้งข้อสงสัยก่อนว่าบุคคลเหล่านี้จะมาสอนเราลงทุนผ่านไลน์ได้จริงๆใช่มั้ย? หรือสอบถามไปยังบริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้มีชื่อเสียงท่านนั้นทำงานอยู่

 

หากโดนหลอกเข้าแล้ว ควรทำยังไงต่อ?

• เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อเป็นการแสดงตัวตนของผู้เสียหาย

• ให้เก็บหลักฐานการโอนเงิน และเก็บภาพข้อความการพูดคุยกับคนร้ายผ่านช่องทางต่าง ๆ เก็บชื่อบัญชี ภาพโปรไฟล์ และข้อมูลของคนร้ายไว้ให้มากที่สุด เพื่อเป็นหลักฐานในการแจ้งความ

• โดยสามารถแจ้งความได้ที่

  • แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อลงบันทึกและออกเอกสารสำหรับประสานงานต่อไปยังสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องต่อไป

  • แจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ https://www.thaipoliceonline.com (สามารถแจ้งความออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง)

  • โทร 1441 แจ้งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ โทร 1599 สายด่วน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

เชื่อว่าหลายคนเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็มักจะพยายามหักห้ามใจไม่ให้ช้อปปิ้งเกินงบที่ตั้งไว้ ซึ่งมันก็ยากเหลือเกิน... แต่วันนี้เรามี 4 Checklist ที่จะทำให้คุณใช้จ่ายได้คุ้ม และได้เงินเหลือช้อปปิ้งได้มากกว่าเดิมอีกด้วย พร้อมแล้วมาเช็คกันว่ามีอะไรบ้าง

1. เช็คก่อนจ่าย
บางประเทศใช้บัตรจ่ายจะถูกกว่าเงินสด เช่น ที่เกาหลีบางร้านหากคุณซื้อด้วยเงินสด จะไม่ได้รับส่วนลดอะไรเลย หรือที่กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศอเมริกา ร้านค้าหลายร้านเริ่มไม่รับเงินสดแบบจริงจัง ต้องวางแผนการแลกเงินไปให้ดี เหลือกลับมาแลกอาจไม่คุ้ม

 

2. เช็ค TAX REFUND
เช็คให้ดีว่าประเทศที่คุณไป มี TAX REFUND ที่ขั้นต่ำเท่าไหร่ บางที่ยิ่งซื้อเยอะ ยิ่งได้ % เงินคืนที่เยอะขึ้นมาก ทำให้วางแผนในการรวมยอดซื้อกันได้

 

3. เช็คบัตรเครดิต
แน่นอนว่าส่วนใหญ่ของขาช้อป ต้องมีบัตรเครดิตสำรองไว้ในกรณีที่เงินสดไม่พอ แต่จริง ๆ แล้วการใช้บัตรเครดิตจ่ายอาจทำให้ได้ของหรือจองห้องพักในราคาถูกลงโดยไม่ต้องรอพึ่งโปรโมชั่นเลย อย่างบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ที่ให้เครดิตเงินคืนสูงสุด 12,000 บาท* เมื่อสะสมยอดช้อปเป็นสกุลเงินต่างประเทศ บัตรเครดิต ใช้ต่างประเทศให้คุณท่องเที่ยวได้สนุก ช้อปปิ้งได้เต็มที่ไม่ต้องกังวล เรียกได้ว่ามีบัตรดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

 

4. เช็คเทียบราคา
ไม่ใช่ว่าซื้อของจากต่างประเทศจะถูกกว่าซื้อที่ไทยเสมอไป เพราะบางครั้งค่าเงินที่ขึ้นลง ก็มีผลต่อราคาสินค้าด้วย ดังนั้นอย่าลืมลองคิดเป็นสกุลเงินไทยแล้วเทียบกับราคาที่ขายในประเทศ คุณจะได้ไม่ต้องเสียพื้นที่กระเป๋าไปฟรีๆ ด้วยนะ

 

เพียงเท่านี้คุณก็ได้มีเงินเหลือไว้เที่ยว ไว้ช้อปปิ้งได้อีกเยอะเลยล่ะ! ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งต่อไปอย่าลืมเช็คก่อนจ่ายกันนะ

เราคนไทยเองอาจจะเคยชินกับประเทศของเรา ทำให้รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรใหม่ๆ ให้น่าค้นหา ทั้งเรื่องของอากาศร้อน บางเดือนก็ฝนตกอาจจะเป็นอุปสรรคของการท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วยเช่นกัน จึงทำให้คนไทยอยากจะออกไปค้นหาอะไรใหม่ๆที่ต่างประเทศ เพื่อได้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างออกไป หรืออยากไปสัมผัสอากาศเย็นๆ แบบที่เมืองไทยไม่ค่อยมี แต่จะให้ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ ก็คงจะไม่ไหวเก็บเงินกันไม่ทัน ไหนจะวันลาพักร้อนที่มีจำกัด วันนี้เราขอนำเสนอที่เที่ยวใหม่ๆ ในประเทศไทย “เที่ยวในไทย แต่ได้ Vibe ต่างประเทศ” มาฝาก เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับเพื่อนๆ บอกได้เลยถ่ายรูปยังไงก็ดูเหมือนฟีลต่างประเทศ ได้สัมผัสกับการเที่ยวเมืองไทยแบบใหม่ๆกันดู จะมีที่ไหนบ้างติดตามกันได้เลย!

1. “เลยดั้น” แอนเทอโลป แคนยอน เมืองไทย
ใครเห็นวิวนี้คงอดคิดไม่ได้ว่าที่นี่ใช่หุบเขาหินทรายแห่งรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือเปล่า? ต้องขอบอกว่าไม่ใช่เพราะที่นี่คือ “เลยดั้น ลานหินมหัศจรรย์แห่ง จ.เพชรบูรณ์” มีลักษณะเป็นลานหินกว้างที่ตั้งอยู่ในแม่น้ำ ลักษณะของลานหินของเลยดั้นนี้ สวยงาม แปลกตา และมีรูปล่างลักษณะเป็นโพรงจำนวนมากเกิดจากการที่หินทรายถูกสายน้ำกัดเซาะเป็นเวลานานทำให้หินเหล่านี้มีลักษณะเป็นรูโพรงและผาหินขวางอยู่กลางแม่น้ำจนเกิดเป็นภาพที่สวยงามแบบนี้
📍ตั้งอยู่ในบ้านห้วยกะโปะ หมู่ 6 ต.หลักด่าน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : มีนาคม - พฤษภาคม (เป็นช่วงน้ำลด ลานหินจะโผล่พ้นน้ำ)

2. “เกาะพระทอง” ซาฟารีเมืองไทย
เกาะพระทอง มีพื้นที่ 102 ตร.กม. เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพังงา เกาะนี้เกิดจากซากปะการังทับถมกันมาอย่างยาวนานล้านปี จนกระทั่งกลายเป็นเกาะที่มีสภาพภูมิประเทศที่แปลกตาแบบนี้ คือจะมีลักษณะค่อนข้างแบนราบ ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเกาะแห่งนี้ ทิศตะวันออกจะเป็นแนวป่าโกงกาง ทิศตะวันตกเป็นหาดทราย ส่วนบริเวณกลางเกาะเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาขนาดใหญ่ที่มีต้นเสม็ดแคระ ขึ้นกระจายอย่างสวยงามมาก จนได้รับฉายาว่า “แอฟริกาเมืองไทย”
📍เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : เปิดตลอดทั้งปี (แต่ถ้าอยากเห็นทุ่งหญ้าสีทองแนะนำให้มาช่วงพฤศจิกายน-เมษายน)

3. “บ้านท่าฤทธิ์ จุดชมวิวท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” บรรยากาศเหมือนอยู่นิวซีแลนด์
บรรยากาศที่มีทุ่งหญ้าสีเขียว มีน้องวัว น้องแพะ เล็มหญ้า และวิวพื้นหลังเป็นภูเขา คงทำให้หลายๆคนนึกถึงบรรยากาศของประเทศนิวซีแลนด์ แต่จริงๆแล้วที่นี่คือ “บ้านท่าฤทธิ์ จุดชมวิวท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรี” ช่วงที่สวยที่สุดคือช่วงที่น้ำในเขื่อนลด เพราะจะมีหญ้าเขียวขจีกว้างทั่วลาน ที่นี่ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 3 ชั่วโมง แนะนำให้ไปถึงช่วงเย็นๆจะได้ไม่ร้อนมาก และเป็นช่วงเวลาที่แสงสวยอีกด้วย

📍บ้านท่าฤทธิ์ ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์, อ.วังม่วง จ.สระบุรี
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : เมษายน-กรกฏาคม (ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) (ฝูงแพะจะมาประมาณ 15.00 น.- 17.30 น.)

4. “หาดหงส์” ซาฮาร่าเมืองไทย
ใครยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวทะเลทรายซาฮาร่าที่ประเทศโอมาน ลองมาสัมผัสซาฮาร่าเมืองไทยกันดูก่อนก็ได้นะ ลองมาที่ "หาดหงส์ จ.อุบลราชธานี" ได้ฟีลวิวทะเลทราย เพราะในช่วงหน้าแล้งจะเกิดเป็นสันทรายสูงสีเหลืองนวลเนียนละเอียดในยามแม่น้ำโขงลด ความกว้างใหญ่ของเนินทรายทำให้ที่นี่ถูกขนานนามว่าเป็น “ทะเลทรายเมืองไทย” เลยทีเดียว
📍บ้านโป่งเป้า ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : ธันวาคม - พฤษภาคม (เพราะเป็นช่วงน้ำลด)

5. “ทุ่งแสลงหลวง” ทุ่งสะวันนาเมืองไทย
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย มีความโดดเด่นที่หลายคนขนานนามว่า “ทุ่งสะวันนาของเมืองไทย” มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างใหญ่อยู่ใกล้ที่ทำการหน่วยหนองแม่นา ถ้าโชคดีคุณจะได้พบสัตว์ป่าที่ออกมาหากินยามเช้า เช่น กวาง และสัตว์กินพืชอื่นๆ ในขณะเดียวกันในช่วงกลางคืนสัตว์ป่าหลายชนิดก็ออกมาหากินตามโป่งกลางทุ่งหญ้านี้เช่นกัน โดยทางอุทยานมีกิจกรรมส่องสัตว์ป่ายามค่ำคืนอีกด้วย
📍ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : เปิดทุกวัน 08.30 น. – 16.30 น. (อากาศจะหนาวช่วงพฤศจิกายน – มกราคม)

ในยุคปัจจุบันการเลือกบัตรเครดิตใบแรกคงเป็นสิ่งที่ตัดสินใจยากมากๆสำหรับมือใหม่ เพราะนอกจากจะมีบัตรหลากหลายประเภทให้เลือกแล้ว ในแต่ละประเภทก็มีสิทธิประโยชน์และรายละเอียดต่างๆที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ไหนจะความกังวลได้บัตรมาจะคุ้มค่าจริงไหม? ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้จริงหรือเปล่า? ทำให้ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตใบแรกต้องศึกษาและหาข้อมูลเป็นอย่างมาก จนอาจทำให้เกิดความสับสนไปพร้อมกันเลยทีเดียว

ดังนั้นวันนี้เรามาช่วยเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ให้กับผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตรายใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การหาบัตรเครดิตที่ใช่ คุ้มค่า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ สิ่งที่ต้องระวังในการใช้บัตร พร้อมแล้วไปดูกันได้เลย!

เช็กที่ 1: เช็กความพร้อมเรื่องวินัยทางการเงิน
สิ่งที่มือใหม่มักพลาด คือการลืมเช็กความพร้อมทางด้านการเงินของตัวเองก่อน เพราะถึงแม้ว่าบัตรเครดิตจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้ เช่น การใช้ในกรณีฉุกเฉิน การผ่อนชำระ และการรูดก่อนจ่ายทีหลังตอนถึงรอบ แต่!!! ต้องอย่าลืมว่าถ้าเราขาดวินัยทางด้านการเงิน บัตรเครดิตก็ทำให้เราเป็นหนี้ได้เช่นกัน ถ้าคุณยังมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ยังต้องยืมเงินคนอื่นมาใช้จ่าย หรือเงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือนเลยต้องการบัตรเครดิตมาเพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติม คุณอาจต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในการสมัครบัตรเครดิตอีกครั้ง

 

เช็กที่ 2: เช็กไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
เพราะในปัจจุบันบัตรเครดิตมีหลากหลายประเภทให้เลือก เราจึงแนะนำให้คุณตั้งต้นจากการเช็กไลฟ์สไตล์ของตัวเองก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้อมูลในบัตรที่ไม่ตอบโจทย์เรา เช่น ชอบเที่ยวในประเทศ, ชอบเที่ยวต่างประเทศ, ชอบช้อปปิ้งในห้าง, ชอบช้อปปิ้งออนไลน์, ชอบกิน, ชอบสั่งเดลิเวอรี่ หรือเน้นผ่อนสินค้า เพื่อหาบัตรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด

เช็กที่ 3: เช็กเงื่อนไขการสมัครและสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ในแต่ละประเภทของบัตรเครดิตก็จะมีเกณฑ์การสมัครที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องของ อายุ, รายได้ และเอกสารประกอบการพิจารณาต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยให้คุณพิจารณาว่าตรงกับความต้องการหรือไลฟ์สไตล์ของตัวเองหรือเปล่า และอย่าลืมตรวจสอบค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ยต่างๆ ให้รอบคอบและครบถ้วน ได้แก่

 

เช็กที่ 4: เช็กไว้ในใจ ท่องจำให้ขึ้นใจว่า!
ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16%

 

 

ในยุคปัจจุบันการเลือกบัตรเครดิตใบแรกคงเป็นสิ่งที่ตัดสินใจยากมากๆสำหรับมือใหม่ เพราะนอกจากจะมีบัตรหลากหลายประเภทให้เลือกแล้ว ในแต่ละประเภทก็มีสิทธิประโยชน์และรายละเอียดต่างๆที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ไหนจะความกังวลได้บัตรมาจะคุ้มค่าจริงไหม? ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้จริงหรือเปล่า? ทำให้ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตใบแรกต้องศึกษาและหาข้อมูลเป็นอย่างมาก จนอาจทำให้เกิดความสับสนไปพร้อมกันเลยทีเดียว

.
ดังนั้นวันนี้เรามาช่วยเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ให้กับผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตรายใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การหาบัตรเครดิตที่ใช่ คุ้มค่า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ สิ่งที่ต้องระวังในการใช้บัตร พร้อมแล้วไปดูกันได้เลย!

 

---

💳เช็กที่ 1: เช็กความพร้อมเรื่องวินัยทางการเงิน

สิ่งที่มือใหม่มักพลาด คือการลืมเช็กความพร้อมทางด้านการเงินของตัวเองก่อน เพราะถึงแม้ว่าบัตรเครดิตจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้ เช่น การใช้ในกรณีฉุกเฉิน การผ่อนชำระ และการรูดก่อนจ่ายทีหลังตอนถึงรอบ แต่!!! ต้องอย่าลืมว่าถ้าเราขาดวินัยทางด้านการเงิน บัตรเครดิตก็ทำให้เราเป็นหนี้ได้เช่นกัน ถ้าคุณยังมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ยังต้องยืมเงินคนอื่นมาใช้จ่าย หรือเงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือนเลยต้องการบัตรเครดิตมาเพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติม คุณอาจต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในการสมัครบัตรเครดิตอีกครั้ง

 

---

💳เช็กที่ 2: เช็กไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

เพราะในปัจจุบันบัตรเครดิตมีหลากหลายประเภทให้เลือก เราจึงแนะนำให้คุณตั้งต้นจากการเช็กไลฟ์สไตล์ของตัวเองก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้อมูลในบัตรที่ไม่ตอบโจทย์เรา เช่น ชอบเที่ยวในประเทศ, ชอบเที่ยวต่างประเทศ, ชอบช้อปปิ้งในห้าง, ชอบช้อปปิ้งออนไลน์, ชอบกิน, ชอบสั่งเดลิเวอรี่ หรือเน้นผ่อนสินค้า เพื่อหาบัตรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด  

 

---

💳เช็กที่ 3: เช็กเงื่อนไขการสมัครและสิทธิประโยชน์ต่างๆ

ในแต่ละประเภทของบัตรเครดิตก็จะมีเกณฑ์การสมัครที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องของ อายุ, รายได้ และเอกสารประกอบการพิจารณาต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยให้คุณพิจารณาว่าตรงกับความต้องการหรือไลฟ์สไตล์ของตัวเองหรือเปล่า และอย่าลืมตรวจสอบค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ยต่างๆ ให้รอบคอบและครบถ้วน ได้แก่

• ค่าธรรมเนียมแรกเข้า, ค่าธรรมเนียมรายปี และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เราต้องจ่ายให้ผู้ออกบัตร
• รอบระยะเวลาบัญชี (รวมถึงระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในแต่ละรอบบิล ก่อนจะเริ่มคิดดอกเบี้ยตามที่ได้กำหนดไว้)
• การชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ (รวมถึงค่าใช้จ่ายในการชำระเงิน)
   

 

💳เช็กที่ 4: เช็กไว้ในใจ ท่องจำให้ขึ้นใจว่า!

• ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16%
• เดือนมกราคม 2567 เริ่มการปรับเพิ่มอัตราจ่ายขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิต เป็น 8% ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย

มือใหม่ที่กำลังมองหาบัตรเครดิตใบแรก! ลองเช็กบัตรเครดิตใบนี้แล้วหรือยัง?

บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน เรดซ์ บัตรเครดิตสำหรับคนรุ่นใหม่พร้อมส่วนลดทุกการใช้จ่ายถูกใจทั้งสายช้อป กิน บันเทิง และช้อปออนไลน์ สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ง่ายดั่งใจคิดไม่ยุ่งยาก สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพียงเงินเดือน 15,000 บาท และเข้าเกณฑ์ที่กำหนดก็สามารถเป็นสมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เรดซ์ ได้ทันที! โดยมีสิทธิประโยชน์หลัก

• รับคะแนน The 1 สูงสุด x3* พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 5%* กว่า 5,000 ร้านค้าในเครือเซ็นทรัล  โดยคะแนนเดอะวันไม่มีกำหนด
• ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีสูงสุดตลอดชีพ เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตามเกณฑ์ที่กำหนด*
• รับโปรโมชั่นจากร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

แค่มีแผนออกเดินทางท่องเที่ยวไปที่ไหนสักแห่ง ก็ทำให้หลายคนรู้สึกตื่นเต้น เมื่อนึกถึงวันที่ได้ไปอยู่ที่นั่น วันที่ไม่ต้องไปทำงาน ไม่ต้องรับโทรศัพท์ ไม่ต้องโดนยิงอีเมล์นัดประชุม แต่ได้ใช้เวลากับคนรัก กินอาหารอร่อย ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศใหม่ๆ และเซอร์ไพรซ์กับเรื่องราวในต่างแดน แต่คุณจะยิ่งตื่นเต้นกว่านั้น เมื่อเริ่มจัดการแผนทั้งหมดให้คอมพลีท แล้วเริ่มนับถอยหลัง และนี่พลังของการจัดการทริปให้เสร็จไวกว่าที่คิด

1.​พลังของรอยยิ้ม จากคนที่คุณรัก

ถ้าคุณวางแผนมอบทริปพิเศษให้เป็นของขวัญกับคนพิเศษ อย่างคนในครอบครัวหรือคนรัก พลังจากรอยยิ้มของคนนั้นจะยิ่งกระตุ้นคุณจัดการทริปให้เสร็จเร็วขึ้น แต่คุณต้องทำการบ้านมาให้ดี อย่าวางแผนตามใจตัวเองล่ะ ลองแอบสำรวจว่าเขาอยากไปที่ไหน หรือสนใจเมืองไหน ประเทศไหนเป็นพิเศษ ทริปนี้จะได้เซอร์ไพร์จนตาโต

2.พลังบล็อกเกอร์และเน็ตไอดอล
มั่นใจว่าคุณต้องกดติดตามบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวอย่างน้อย 2-3 คน ไว้เป็นแนวทางวางแผนท่องเที่ยว ยิ่งบล็อกเกอร์คนนั้นอัพเรื่องราวไม่หยุด มือของคุณจะกดจองตั๋วเครื่องบินหรือบุ๊กกิ้งโรงแรมโดยไม่รู้ตัว และนี่คือพลังงานบางอย่างที่ทำให้ทริปคุณเสร็จเร็วขึ้นเฉยเลย

3.พลังแห่งโลวซีซั่น
เพราะโลวซีซั่นทำให้เราไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนเยอะๆ ถ้าโชคดีเราก็ได้วิวและบรรยากาศที่เป็นเหมือนเราคนเดียว และที่สำคัญคือทุกอย่างราคาลงหมดเลย ช่วยคุณประหยัดไปได้อีกเยอะ แต่ก่อนจะจองทริปให้เสร็จเพราะราคาที่ดีงามแล้ว อย่าลืมเช็คอากาศและโรงแรมให้ดีนะ เดี๋ยวหมดสนุกเมื่อไปเจอของจริง

4.พลังแห่งโปรโมชั่น
พลังนี้สำคัญมาก ไม่อยากให้ลืมกันเลยจริงๆ ใช้พลังบัตรเครดิตที่คุณมีอยู่ในมือ เช็คโปรโมชั่นกันด้วยนะ หลายคนพลาดสิทธิพิเศษของบัตรไปมากมาย เพราะบัตรเครดิตมักมีโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษเกี่ยวกับการท่องเที่ยวออกมาตลอดๆ ทั้งร่วมรายการกับสายการบิน โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร บางทีทริปนี้คุณอาจจ่ายแค่ครึ่งเดียวก็ได้

 

ใกล้หน้าร้อนแบบนี้ มาอัพเดทร้านสวย ๆ ที่มีมุมให้ถ่ายรูปลงโซเซียลได้อีกเพียบ กับร้านเด็ดที่ต้อง CHECK-IN กันรัว ๆ เตรียมกล้องให้พร้อมแล้วไปกัน

 

Mid Winter Green

ร้านที่คุณจะรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย ด้วยการตกแต่งที่ดูเป็นปราสาทสไตล์ยุโรป ให้บรรยากาศเรียบหรู สงบ ดูมีความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับทั้งครอบครัว คนรัก และกลุ่มเพื่อน แถมยังมีสวนผักออแกร์นิค ที่นำมาปรุงอาหารให้หลากหลายเมนูให้คุณได้ลิ้มรสด้วยการทำอาหารแบบโฮมเมด รับรองว่าถูกใจทั้งคนชอบถ่ายรูปและชอบการกินแน่นอน

ตั้งอยู่ที่ : ถนนธนะรัชต์ นครราชสีมา (อยู่ติดริมถนนธนะรัชต์)
เบอร์ติดต่อ : 082-452-8888
เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 น. – 23.00 น.
ประเภท : อาหารนานาชาติ
Facebook: MIDWINTERGREEN

---

Jolly Land Starlight Amphitheater

ร้านอาหารและคาเฟ่โรงนาสีขาว ดูอบอุ่น ในรูปแบบชนบทของชาวตะวันตก ใครมาห้ามพลาดเมนูพิซซ่าที่ขึ้นชื่อ มานั่งทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ ยิ่งถ้าใครมาตอนฤดูหนาว ทำให้ยิ่งฟินเป็นสองเท่าเลย เหมาะกับการมาพักผ่อน ถ่ายรูปเล่น



ตั้งอยู่ที่ : 105 ม.2 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายแม่สอด (เขตแดน)–มุกดาหาร เพชรบูรณ์
เบอร์ติดต่อ : 082-393-5091
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ – วันศุกร์10:30 น. – 20.00 น. / วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 10:30 น. – 21.00 น.
ประเภท : เบเกอรี่, อาหารนานาชาติ, อาหารฟิวชั่น
Facebook : jollylandstarlightamphitheater

---

ดงมาดาม      

ร้านที่ไม่ได้สวยแค่รูป แต่จูบก็หอม เต็มไปด้วยดอกไม้ให้เข้า CONCEPT “ดงมาดาม” การตกแต่งจานอาหารก็มีดอกไม้เต็มไปหมด ไม่ว่าหิวแค่ไหนก็ต้องถ่ายรูปก่อน แถมรสชาติอาหารก็อร่อยสุด ๆ ด้วยดีกรีของ “เดี่ยว มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย”

ตั้งอยู่ที่ : 226/37 ซอย 12 บ้านใหม่หลังมอ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 097-926-5696
เวลาเปิดบริการ : วันพุธ - วันจันทร์ เวลา รอบบ่าย: 13.00 น. – 16:00 น. / รอบเย็น: 18:00 น. – 20:30 น.
ประเภท : อาหารไทย, สเต๊ก, เบเกอรี่/เค้ก
Facebook : DongMadame

---

THE SUMMER HOUSE

หลังจากไหว้พระทำบุญกันแล้ว อย่าลืมมาพักผ่อนหย่อนกายได้ที่นี่ บรรยากาศในสวนติดริมแม่น้ำ ทานอาหารเคล้าดนตรีสด อาหารจานเด่นคงไม่พ้นกุ้งแม่น้ำที่ขึ้นชื่อของอยุธยา นอกจากนี้ยังมีขนมหวานปิดท้ายมื้อแบบฟิน ๆ เติมเต็มวันหยุดแบบไม่ต้องไปไหนไกลเลย

ตั้งอยู่ที่ : 77/1 ตำบลเกาะเรียน อยุธยา (ริมถนนหมายเลข 3477 ร้านอยู่ประมาณเกาะเรียนซอย 45)
เบอร์ติดต่อ : 094-224-2223
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 21:30 น.
ประเภท : อาหารไทย, อาหารฟิวชั่น, เบเกอรี่/เค้ก, เครื่องดื่ม
Facebook : thesummerhouse.ayutthaya
 

---

THE LIBRARY BAR

ร้านอาหารเรียบหรู สบายตา ที่แฝงตัวอยู่ในเมืองที่วุ่นวาย อยู่ภายในโรงแรม U Sathorn ตกแต่งแบบ MODERN VINTAGE มีสระว่ายน้ำ และสนามหญ้าสีเขียว ในส่วนของอาหารก็หน้าตาดีไม่แพ้กัน สีสันสดใสตัดกับการตกแต่งของร้านทำให้อาหารดูเด่นขึ้นอีกเท่า

ตั้งอยู่ที่ : 105 ซอยงามดูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
เบอร์ติดต่อ : 02-119-4888
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์- วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 23:00 น.
ประเภท : อาหารไทย,อาหารตะวันตก, ของหวาน, เครื่องดื่ม/น้ำผลไม้
Facebook : USathornBangkok

---

LOVE ME TENDER LE BISTRO       

ร้านอาหารฝรั่งเศสที่ปรุงด้วยเชฟชาวฝรั่งเศส ทำให้รสชาติและสไตล์การตกแต่งเหมือนได้อยู่ฝรั่งเศส ถ้าไม่ CHECK-IN บอก ก็คงไม่รู้ว่าอยู่เมืองไทยเลยล่ะ

ตั้งอยู่ที่ : โครงการ TTN AVENUE ถนนนางลิ้นจี่ กรุงเทพมหานคร (TTN Avenue, 2nd Floor. Room no. A09-A11)
เบอร์ติดต่อ : 02-678-2048
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ 11:00 - 14:30 / 17:30 - 22:00  วันพุธ - วันอาทิตย์ 11:00 - 14:30 / 17:30 - 22:00
ประเภท : อาหารนานาชาติ, อาหารฝรั่งเศส
Facebook : LoveMeTenderThailand

---

เดชทศพักตร์การอาหาร

ใครที่มองหาร้านนั่งสบาย ๆ กินลม ชมวิว ภูเขาและแม่น้ำ นั่งห้อยขาชิลล์ ๆ ระหว่างทานอาหาร แนะนำร้านนี้เลย นอกจากวิวทิวทัศน์ที่โดดเด่นแล้ว รสชาติอาหารก็ไม่แพ้กัน เมนูปลา อาหารทะเล ก็สดสุด ๆ รับรองว่าคุณจะฟินทั้งวิวและรสชาติอาหารแน่นอน

ตั้งอยู่ที่ : ถนนต้นตะเคียน กาญจนบุรี (แพห้อยขาพาชิล)
เบอร์ติดต่อ : 081-587-5159
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี 10:00 น. - 21:00 น.​/ วันศุกร์ - วันอาทิตย์ 10:00 น. - 21:30 น.
ประเภท : อาหารไทย, อาหารทะเล
Facebook : paehoikapachill

---

Sundance Lounge

ร้านที่ใครชอบถ่ายรูปด้วยแสงเงาธรรมขาติจะต้องหลงรัก! ร้านคาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยกระจกใส และต้นไม้สีเขียวดูสดชื่น จุดเด่นของร้านนี้คือใบชาออร์แกนิคที่คัดสรรมาอย่างดี นอกจากนี้ยังมี อาหารคาว และเบเกอรี่ด้วย แถมรสชาติดีไม่แพ้กัน ใครผ่านไปอย่าลืมแวะกันนะ

ตั้งอยู่ที่ : 13/14 หัวหิน 35 ตำบลหัวหิน อำเภอ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
เบอร์ติดต่อ : 092-350-0035
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี 11:00 น. - 21:00 น.​/ วันศุกร์ - วันเสาร์ 10:00 น. - 22:00 น. / วันอาทิตย์ 10:00 น. – 21:00 น.
ประเภท : คาเฟ่, อาหารฟิวชั่น
Facebook : Sundance Lounge - seenspacehuahin

---

DADDY’S ANTIQUE CAFÉ RESTAURANT 

อีก 1 ร้านที่ใหม่เชียงไม่ควรพลาด ร้านออกแบบแนวคลาสสิคผสมความทันสมัย มีทั้งโซน INDOOR และ OUTDOOR  มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ รสชาติอาหารก็เด็ดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมนู FRESH TIRAMISU ที่ทำให้หลายคนติดใจร้านนี้

ตั้งอยู่ที่ : 45/8 หมู่ 1 ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 094-764-1441
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 11:00 น. – 22:00 น.
ประเภท : คาเฟ่, อาหารนานาชาติ
Facebook : daddyAntique

---

เช็คลิสต์ร้านอาหารได้แล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้ที่เช็คอินที่พัก วันนี้เรามีที่พักมาแนะนำ รับรองว่าสวยงามไปแพ้กัน บางที่ยังมีโปรโมชั่นดี ๆ แบบได้ห้องวิวสวย และราคางาม ๆ กันด้วยนะ

Tamarind Village

โรงแรมเมืองเหนือเชียงใหม่ ที่มีจุดเด่นคือต้นมะขามขนาดใหญ่ ทำให้พื้นที่โดยรอบโรงแรมร่มรื่นสงบภายในเมืองเก่า เหมาะแก่การพักผ่อนมากๆ

ตั้งอยู่ที่ : 50/1 ถนน ราชดำเนิน ตำบล ศรีภูมิ อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50200
เบอร์ติดต่อ : 053-418-896-9
https://www.tamarindvillage.com/th/contact.php

---

Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya

พัทยาอย่างที่เรารู้จัก คือเป็นแหล่งพักผ่อนไม่ไกลกรุงเทพฯ ของกินร้านอาหาร คาเฟ่มากมาย คิดจะมาพักผ่อนกันทั้งที เราแนะนำที่นี่เลย บรรยากาศธีมดีรีสอร์ท ติดชายหาด

ตั้งอยู่ที่ : 277, อำเภอ บางละมุง ชลบุรี 20150
เบอร์ติดต่อ : 038-301-234
https://www.centarahotelsresorts.com/th/centaragrand/cmbr/

---

Centara Grand Resort & Villas Hua Hin

หากแวะไปหัวหิน เราอยากให้ลองเช็คอินที่นี่ โรงแรมที่บรรยากาศสวยงามมากๆ กับความหรูหรา 5 ดาวที่ยังไงต้องประทับใจกลับบ้าน ที่สำคัญโรงแรมนี้ถือว่าเก่าแก่อันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ จะได้กลิ่นอายความอบอุ่นในการต้อนรับจากพนักงานแบบไทยๆ เป็นอย่างดี

ตั้งอยู่ที่ : 1 Damnernkasem Road, ตำบลหัวหิน อำเภอ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
เบอร์ติดต่อ : 032-512-021
https://www.centarahotelsresorts.com/th/centaragrand/chbr/

ใครเป็นสายเนื้อยกมือขึ้นสูง ๆ! วันนี้ Wongnai เอาใจคนรักเนื้อด้วย 10 ร้านสเต๊กร้านเด็ด เพื่อคนรักเนื้อ อัดแน่นคุณภาพทุกคำ เนื้อแดงฉ่ำ ๆ แถมนุ่มชุ่มลิ้น แค่คิดก็ฟินจนน้ำลายไหลแล้ว พิเศษสุด! เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับส่วนลดสูงสุด 10%* ร้านไหนจะอยู่ในลิสต์กันบ้างไปดูกันเลย!

 

The Steakhouse Co. Bangkok

ใครเป็นสายเนื้อยกมือขึ้นสูง ๆ! วันนี้ Wongnai เอาใจคนรักเนื้อด้วย 10 ร้านสเต๊กร้านเด็ด เพื่อคนรักเนื้อ อัดแน่นคุณภาพทุกคำ เนื้อแดงฉ่ำ ๆ แถมนุ่มชุ่มลิ้น แค่คิดก็ฟินจนน้ำลายไหลแล้ว พิเศษสุด! เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับส่วนลดสูงสุด 10%* ร้านไหนจะอยู่ในลิสต์กันบ้างไปดูกันเลย!

บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร เมื่อทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป
ตั้งอยู่ที่ 9/8 ถนน สีลม (ซอย พัฒน์พงศ์ 2) สีลม , บางรัก , กรุงเทพมหานคร
เบอร์ติดต่อ 061-097-8325
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 17:00 - 01:00
ประเภท : สเต๊ก

---

The Steakhouse Co. Bangkok

ใครเป็นสายเนื้อยกมือขึ้นสูง ๆ! วันนี้ Wongnai เอาใจคนรักเนื้อด้วย 10 ร้านสเต๊กร้านเด็ด เพื่อคนรักเนื้อ อัดแน่นคุณภาพทุกคำ เนื้อแดงฉ่ำ ๆ แถมนุ่มชุ่มลิ้น แค่คิดก็ฟินจนน้ำลายไหลแล้ว พิเศษสุด! เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับส่วนลดสูงสุด 10%* ร้านไหนจะอยู่ในลิสต์กันบ้างไปดูกันเลย!

บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร เมื่อทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป
ตั้งอยู่ที่ 9/8 ถนน สีลม (ซอย พัฒน์พงศ์ 2) สีลม , บางรัก , กรุงเทพมหานคร
เบอร์ติดต่อ 061-097-8325
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 17:00 - 01:00
ประเภท : สเต๊ก

---

เครดิต wongnai
ติดตามความอร่อยเพิ่มเติมได้ที่ wongnai.com

จัดเต็มความนุ่มของเนื้อวัวฉ่ำ ๆ เพื่อสายเนื้อตัวจริงกับ 10 ร้านสเต๊กร้านเด็ด เพื่อคนรักเนื้อ อัดแน่นคุณภาพทุกคำ เรียกได้ว่าฟินแบบสุด ๆ และยังพิเศษสุด! เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับส่วนลดสูงสุด 10%* ส่วนใครที่อิ่มเอมกับเนื้อจนจุใจแล้ว ลอง 10 ร้านดัง คอนเซ็ปต์ดี เกิดมาทั้งทีต้องลองสักครั้ง ดูสิ!

---

   เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย อยากสวยทนสวยนานต้องอ่านบทความนี้เลย! หลายคนคงเบื่อกับการที่จะต้องมาเติมหน้าระหว่างวัน และนอกจากเครื่องสำอางจะไม่ติดทนบนหน้าแล้ว ก็ยังมีปัญหาเรื่องการดูแลรักษาเครื่องสำอางให้อยู่กับเราให้มีคุณภาพและนานที่สุดอีก วันนี้มีเคล็ดลับที่ไม่ลับอีกต่อไป มาดูกันว่าว่าจะทำยังไงให้แต่งหน้าแล้วทน เครื่องสำอางที่ซื้อมาก็อยู่กับเรานานที่สุด


เคล็ดลับให้แต่งทีเดียวอยู่!
1.ทำให้ผิวชุ่มชื่นแต่ไม่มัน ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่จะกลัวหน้ามัน และคิดเสมอว่าตัวเองหน้ามัน ก็จะพยายามใช้กระดาษซับมันอยู่ตลอด แต่จริงๆแล้วเราไม่ควรจะทำให้หน้าแห้งจนเกินไป เพราะใบหน้าจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นควรดูแลให้ผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอ
ผิวมัน กับผิวขาดน้ำแตกต่างกันอย่างไร?
ผิวมัน : มีความมันตรงทีโซนและแก้ม, หน้าไม่เป็นขุย, ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมันแล้วเห็นผล
ผิวขาดน้ำ : ใบหน้าแห้งสลับมัน, รูขุมขนกว้าง, มีสิวผดและสิวอุดตัน, แต่งหน้าไม่ติด
เทคนิคการดูแลให้ผิวชุ่มชื่น : ทาว่านหางจระเข้, มาส์กหน้าอาทิตย์ละครั้ง, ใช้สเปรย์น้ำแร่ระหว่างวัน, เลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น, ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
2.บำรุงแต่พอดี ผู้หญิงบางคนกลัวหน้ามีริ้วรอยก็อัดครีมบำรุงมากเกินความจำเป็น พอลงแป้งรองพื้นมันก็หลุด เพราะผิวมันจนไม่สามารถรับอะไรได้อีก ควรทาครีมบำรุงแต่พอดี และไอเทมต้องห้ามเลยคือ “ออยล์” เพราะมันจะทำให้ รองพื้นไหลเยิ้มจนอกจากแป้งรองพื้นจะไม่ติดหน้าแล้วยังแถมสิวอุดตันมาอีกด้วย แนะนำว่าช่วงเช้าให้ทาแค่เจลบำรุงแบบบางเบาก็พอ
3.เกลี่ยรองพื้นด้วยฟองน้ำ เพราะนิ้วมือมีความอุ่น ตอนเกลี่ยอาจรู้สึกว่าผิวมันก็เนียนดี แต่รองพื้นก็ไหลเร็วดีเช่นกัน แนะนำให้ใช้ฟองน้ำแทนดีกว่า จะทำให้รองพื้นติดทนและผิวเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
4.หยุดเอามือจับหน้า ไม่ว่าจะเท้าคาง จิ้มแก้ม ลูบหน้า ขอบอกเลยว่าห้าม! ผู้หญิงท่านไหนที่กำลังทำอยู่ลองเช็ดมือดูตอนนี้เลยว่ามีรองพื้นแอบติดมาหรือเปล่า
5.สเปรย์น้ำแร่ช่วยล็อคเมคอัพ ให้ฉีดบางๆ ทั่วหน้าเมื่อแต่งหน้าเสร็จ รับรองว่าเป๊ะยาวนานกว่าไม่ฉีดแน่นอน ส่วนวันไหนที่รู้สึกว่าระหว่างวันอากาศมันร้อน หน้าเริ่มมัน ก็ยังสามารถฉีดสเปรย์น้ำแร่ระหว่างวันเพื่อช่วยคุมความมันได้อีกด้วย
 

เคล็ดลับการรักษาเครื่องสำอางยังไงให้อยู่นาน คุณภาพไม่มีดรอป
1.เครื่องสำอางแบบไหนห้ามแช่ตู้เย็น คือเครื่องสำอางที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม, เครื่องสำอางที่เป็นผง หรือแท่ง เพราะถ้ามันอยู่ในที่ร้อนหรือเย็นเกินไปจะส่งผลให้เสื่อมสภาพเร็ว ควรเก็บไว้ในที่แห้งและอุณหภูมิปกติ และไม่โดนแสงแดด
2.ไม่ใช้นิ้วสัมผัสเครื่องสำอางที่เป็นของเหลว เพราะเชื้อโรคเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น อาจทำให้เชื้อโรคจากนิ้วของเราแพร่กระจายไปสู่เครื่องสำอางได้ง่าย การปนเปื้อนแบบนี้จะทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสำอางลดลง แถมผิวหน้าอาจได้รับเชื้อโรคอีกด้วย
3.อย่าลืมนับวันหมดอายุจากวันที่เปิดใช้ เครื่องสำอางแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน โดยแบ่งได้ดังนี้
เครื่องสำอางที่เก็บได้ 2 ปี : บลัชออน, ไฮไลท์, อายแชโดว์, อายไลน์เนอร์แบบดินสอ, ลิปสติกและดินสอเขียนขอบปาก
เครื่องสำอางที่เก็บได้ 1 ปี : โทนเนอร์, มอยเจอร์ไรเซอร์, แป้งผสมรองพื้น, ครีมต่างๆ
เครื่องสำอางที่เก็บได้ 6 เดือน : รองพื้น, ไพรเมอร์, คอลซีลเลอร์, เบส
เครื่องสำอางที่เก็บได้ 3 เดือน : มาสคารา, อายไลน์เนอร์แบบน้ำและเจล
แต่เพื่อความเซฟแนะนำให้ทำสติกเกอร์แปะวันที่เราเปิดใช้งาน เอาไปแปะไว้บนเครื่องสำอางแต่ละชิ้นจะดีกว่า รับรองไม่มีลืม!
4.หมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า ไม่ว่าจะเป็นแปรง พัฟ ฟองน้ำ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ใช้แล้วควรหมั่นทำความสะอาดเพื่อให้แบคทีเรียไม่เข้าไปสะสม และเข้าไปรวมกับเครื่องสำอางของเรา
5.ไม่ใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น นอกจากเครื่องสำอางของเราอาจปนเปื้อน และอาจทำให้เกินโรคติดต่อต่างๆได้อีกด้วย
 
         รู้เคล็ดลับการแต่งหน้าให้ติดทน และการเก็บเครื่องสำอางที่ซื้อมาให้อยู่กับเราได้นานที่สุดกันไปแล้วก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะ และก่อนซื้อเครื่องสำอางก็ต้องห้ามลืมเช็คเลข อย., ดูวันผลิตและวันหมดอายุ, เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออย่าง อาทิ ห้างเซ็นทรัล โรบินสัน

  “วันตรุษจีน” เป็นวันสำคัญของคนไทยเชื้อสายจีน เพราะถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน คนจีนทั่วโลกจะร่วมเฉลิมฉลอง ตามขนบธรรมเนียมที่อาจแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ แต่ที่เหมือนกันก็คือวันนี้นอกจากทุกคนจะมารวมตัวเพื่อฉลองด้วยกันแล้ว สิ่งที่ถือปฏิบัติกันมายาวนาน ก็คือการซื้อของเข้าบ้านเพื่อประดับตกแต่ง กราบไหว้บรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทำอาหารเพื่อรับประทานร่วมกัน งั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่า ตรุษจีนปีนี้ จะออกไปช้อปไปจับจ่ายอะไรยังไงให้เฮง ให้คุ้ม ยิ่งๆ ขึ้นไป

 

จับจ่ายซื้อของไหว้

        ในวันนี้ทุกคนจะเตรียมของไหว้อย่างพิถีพิถัน เพื่อเตรียมไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมหวาน กับข้าวคาว กับข้าวเจ สุรา น้ำชา ข้าวสวย และกระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งผลไม้ที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะก็คือ ส้มมหามงคลสีทอง ที่ชาวจีนเรียกว่าส้มไต่กิก เพราะมีความหมายหมายถึงความสวัสดีมงคลอย่างยิ่ง โดยในช่วงเช้าจะเริ่มไหว้เจ้าที่ และช่วงสายไม่เกินเที่ยงจะไหว้บรรพบุรุษ

จับจ่ายซื้ออาหารรับประทานร่วมกัน

        สิ่งสำคัญของวันตรุษจีนก็คือทุกคนจะมารวมตัวกัน ญาติพี่น้องที่อยู่ไกลไม่เจอกันในรอบปีจะกลับมาพบปะเยี่ยมเยือนกันคึกคักในวันนี้ ซึ่งธรรมเนียมที่ทุกคนต่างทำร่วมกันคือการทำอาหารรับประทานร่วมกัน และอาหารมงคลที่กินแล้วรวย ตัวอย่างเช่น ปลา สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง, เกี๊ยว คือความมั่งคั่ง,ปอเปี๊ยะ ความร่ำรวย, ครอบครัวอบอุ่น, ผลไม้มงคล ความสมบูรณ์และความมั่งคั่ง

 

จับจ่ายประดับตกแต่ง

        ก่อนถึงตรุษจีน ผู้คนจะเริ่มซื้อของเข้าบ้าน เพื่อประดับตกแต่งและทำความสะอาดครั้งใหญ่ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการปัดกวาดสิ่งที่ไม่ดีออกไป สัญลักษณ์ที่เรามักจะเห็นทุกปีก็คือสีแดง ทุกบ้านจะประดับประดาไปด้วยกระดาษสีแดงที่มีคำอวยพรให้อายุยืน ร่ำรวย อยู่ดีมีสุข

จับจ่ายเสื้อผ้าสีมงคล

        ธรรมเนียมสำคัญก็คือใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส สีสว่าง ๆ เช่น สีแดง สีทอง เพราะเชื่อว่าเป็นสีแห่งความสุข ความมงคลความสว่างสดใส และเจิดจ้ามาให้ผู้สวมใส่ รวมทั้งใส่เสื้อผ้าใหม่ เพื่อเอาเคล็ดวันปีใหม่ให้ชีวิตสดใสราบรื่นเบิกบานตลอดปี ส่วนเสื้อผ้าสีขาว สีดำ ถือเป็นสีต้องห้ามในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะเป็นสีไว้ทุกข์ แสดงถึงความโศกเศร้า

ในช่วงปีสองปีมานี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการไปคาเฟ่เป็น Activity ที่ได้รับความนิยมมากในไทย ชนิดที่ว่ามีร้านเปิดใหม่แทบทุกวัน โดยเฉพาะร้านที่ตกแต่งสไตล์มินิมอล แต่ถ้าจะนิยามตัวเองว่าเป็น Café Hopper ก็คงต้องเจอเช็กลิสต์นี้ “รวม 10 ร้านที่สาย Café Hopping ตัวจริงต้องเคยไป” แต่ส่วนใครที่ยังไม่เคยก็อยากจะชวนมาลองทำเป็นชาเลนจ์ พาตัวเองออกไปเจออะไรใหม่ ๆ เพราะอาจได้เจอร้านที่ถูกใจกลายเป็นร้านประจำร้านใหม่ในปีหน้า
.
นอกจากนี้ชาว Cashless Society จะต้องแฮปปี้ เพราะในเช็กลิสต์นี้ทุกร้านรับทั้งพร้อมเพย์และบัตรเครดิต หมดกังวลสำหรับคนไม่พกเงินสด ส่วนใครที่ชอบใช้บัตรก็ยังสามารถสะสมยอดการใช้จ่ายได้ด้วย และขอแอบกระซิบโปรบัตรที่มาแรงในช่วงนี้ อย่างบัตร Central The 1 Credit Card ผู้ใช้จะได้รับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 3% จากยอดที่ใช้จ่าย และยังได้คะแนน The 1 เพิ่มอีก 300 คะแนนในทุกวันศุกร์ เรียกว่าเป็นบัตรเครดิตอีก 1 ใบที่ควรมีไว้ใช้กับร้านที่ไม่มีโปรร่วมกับธนาคาร อย่าปล่อยให้การใช้จ่ายผ่านไปแบบเสียเปล่า ใช้บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน สะสมคะแนนไว้ เพราะสามารถนำไปแลกเป็นส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าภายในเครือ Central Group ได้ ซึ่งถ้าใครสนใจแนะนำให้รีบสมัครทางออนไลน์ตอนนี้ เพราะจะได้รับกระเป๋าล้อลาก Limited Edition มูลค่า 4,990.-* 1 ใบ

 

---

OKONOMI

ร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นน้องใหม่ ที่แนะนำให้ไปก่อน 11 โมงเพื่อที่จะได้ไม่พลาดชิมเซตอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เพราะในช่วงบ่ายจะเหลือแค่เพียงเมนู Bakery กับเครื่องดื่ม เมื่อเดินทางมาถึงสามารถสังเกตได้ไม่ยาก เนื่องจากด้านนอกของตัวร้านจะเป็นบ้านสองชั้นที่ตกแต่งในโทนสีเขียวมิ้นท์เด่นสะดุดตา ส่วนบรรยากาศภายในร้านจะใช้การตกแต่งสไตล์มินิมอลด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ตัดคู่กับผนังสีขาว และกั้นส่วนพื้นที่ด้วยกระจกใส เพื่อให้ร้านดูไม่มืดทึบ คนที่นั่งอยู่ภายในร้านก็ยังสามารถเห็นแสงธรรมชาติได้ เป็นบรรยากาศที่เชื่อว่าไม่ว่าใครไปก็จะรู้สึกว่าสามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน อีกทั้งยังเดินทางไปได้สะดวกเพราะอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ 

Name : OKONOMI
Hours : 8.00 - 18.00 น.
Location : ซอยสุขุมวิท 38
Contact Info :
- Tel. : 061-338-8000
- Facebook : OKONOMI

---

Pulse

ร้าน Pulse โดดเด่นด้วยคอนเซปต์ Coffee • Scenery • Music ที่ตกแต่งสไตล์ทรอปิคอลรีสอร์ท เหมือนเรากำลังไปเที่ยวคาเฟ่ฮิปๆ บนเกาะส่วนตัว มีกลิ่นอายความเป็นคาเฟ่สไตล์เกาหลี ผสมกับความเป็นคาเฟ่บาหลีไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
.
สำหรับการตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ Cozy เน้นการใช้โทนสีขาวๆ ครีมๆ ผสมกับโต๊ะไม้ และเก้าอี้หวาย ให้ความรู้สึกสบาย ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง เดินข้ามสะพานยาวเข้ามาในร้าน จะพบกับร้านกาแฟกลางน้ำ ภายในร้านเปิดโล่งรับลมได้ดีมาก บรรยากาศรอบๆ คือธรรมชาติ มองไปเห็นต้นโกงกางสีเขียว นั่งจิบกาแฟ มองแสงแดดสะท้อนกับน้ำ มีลมเย็นโชยมาและเพลงที่ทางร้านเปิดคือเข้ากับบรรยากาศสุดๆ 

Name : Pulse
Hours : 10.00 - 18.30 น. ปิดวันจันทร์
Location : บางขุนเทียน
Contact Info :
- Tel. : 098-365-2654
- Facebook : Pulse Bangkhunthian

---

Sarnies Roastery

คาเฟ่แบรนด์ดังจากประเทศสิงคโปร์อย่าง ‘Sarnies’ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการขยับขยายสาขาต่อยอดความสำเร็จมาในย่านเพลินจิตที่ซอยต้นสน หยิบยกเอาโรงคั่วกาแฟมาไว้ท่ามกลางบรรยากาศเรียบง่าย พร้อมแฝงกลิ่นอายความ Cozy ด้วยไม้สนสีอ่อน ตัวร้านถูกรายล้อมด้วยกระจกใสรอบด้าน เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาสร้าง ความอบอุ่นระหว่างวัน ในขณะเดียวกันก็จะได้สัมผัสถึงกลิ่นหอมที่คลอเคล้าด้วยเสียงคั่วกาแฟ สะท้อนความมีชีวิตชีวา อบอุ่น และเป็นกันเอง 

Name : Sarnies Roastery
Hours : 7.30 - 17.00 น.
Location : ซอยต้นสน เพลินจิต
Contact Info :
- Tel. : 02-003-7592
- Facebook : Sarnies Bangkok

---

Peace Oriental Tea House

ร้านชา 1 ในดวงใจของใครหลายคน ที่นำเสนอการชงชาตะวันออกอย่างจีนและญี่ปุ่น ผ่านวัฒนธรรมการชงชาสไตล์ Zen ภายในร้านที่เน้นการตกแต่งด้วยงานไม้ และ Lighting ที่ทำให้เกิดความ Harmony ของโทนสี ท่ามกลางบรรยากาศอันวุ่นวายของซอยอารีย์ เพียงแค่คุณมาที่นี่ ก็จะได้พบเจอกับความ Peaceful สมกับชื่อร้าน 

Name : Peace Oriental Tea House
Hours : 8.00 - 18.30 น.
Location : อารีย์ซอย 1
Contact Info :
- Tel. : 062-389-3578
- Facebook : Peace 和 oriental teahouse - Ari soi 1

---

Toby's Saladaeng

Toby's at Saladaeng อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่รักการทานบรันช์ดีๆ ที่ไปง่ายเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ร้านอยู่ไม่ไกลจากทั้ง MRT และ BTS โดยสาขาที่ 2 นี้ยังอยู่ในอาคารเดียวกับโรงแรม The Cotton Saladaeng อีกด้วย

บรรยากาศร้านมีความมินิมัล อีกทั้งยังเลือกใช้สี Muted Tone ที่เน้นความเรียบง่าย สบายตา อบอุ่นเป็นหลัก ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนที่สร้างฟิลลิ่งให้ ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น รวมถึงยังเปิดให้เห็นภาพบบรรยากาศความร่มรื่นของต้นไม้และเหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปมา เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับร้านแห่งนี้ 

Name : Toby’s Saladaeng
Hours : 9.00 - 17.00 น.
Location : ชั้น G The Cotton Hotel
Contact Info :
- Tel. : 02-121-4954
- Facebook : @tobysatsaladaeng 

---

Babyccino

ตั้งอยู่ภายในคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ใจกลางเอกมัย ที่มาในคอนเซปต์ Craft and Sustainability ตกแต่งในสไตล์ European Luxury Minimal แต่เฟอร์นิเจอร์ภายในร้านทั้งหมดจะเป็นงาน Handcraft ของคนไทย และมาพร้อมกับเมนูอาหารสไตล์โฮมเมดที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี และ Specialty Drinks หลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกทานท่ามกลางบรรยากาศสุด Homey ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ 

Name : Babyccino
Hours : 8.00 - 18.00 น.
Location : ซอยเอกมัย 12
Contact Info :
- Tel. :080-362-4965
- Facebook : Babyccino

---

JOSH KAFFA

JOSH KAFFA ร้านกาแฟที่นำเสนอตัวเองในรูปแบบของ The Boutique Espreesso Bar ที่อยากเป็นศูนย์รวมความชอบของคอกาแฟให้ได้แวะเวียนมา โดยทางร้านได้ร่วมมือกับโรงคั่ว M Presso นำเสนอหลากหลายเมนูสุดพิเศษจากเมล็ดกาแฟพันธุ์ดี บรรยากาศร้านที่ออกแบบสไตล์ Copenhagen ผสมผสานสีเทา เขียวอมฟ้า ตัดด้วยสีน้ำตาลของพื้นไม้ เป็นแนวการตกแต่งที่ผสมความ Cozy และ Classic ได้อย่างลงตัวกลมกล่อม รวมถึงการจัดวาง เฟอร์นิเจอร์แบบเป็นสัดส่วนให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น
 

ทางร้านมีกาแฟให้เลือก 2 แบบได้แก่ Italian ที่จะให้รสชาติกลมกล่อมในโทนช็อกโกแล็ต และ 3rd Wave ที่ให้ความสดชื่นในโทนฟรุ๊ตตี้ หากใครไม่ดื่มกาแฟสามารถสั่งแบบไม่ใส่กาแฟได้เช่นกัน

Name : Josh Kaffa
Hours : 9.00 - 18.00 น.
Location : อารีย์ซอย 4 ฝั่งเหนือ
Contact Info :
- Tel. : 092-284-0461
- Facebook : joshkaffa

---

H dinging

Home Café ย่านสุขุมวิท ที่หลายคนหลงรักในความสงบ กับเมนูอาหารที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความอร่อย ไม่ว่าจะเป็น Bakery หรือ All Day Breakfast ที่ทำให้คุณสามารถนั่งทำงานอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน ภายใต้บรรยากาศสบายๆ จากการตกแต่งร้านสไตล์มินิมอลที่เน้นการใช้สีโทนขาวตัดกับสีน้ำตาลอ่อน เข้ามาช่วยเสริมให้รู้สึกถึงความ Homey เหมือนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่บ้าน

Name : H dining
Hours : 8.00 - 20.00 น.
Location : ซอยสุขุมวิท 38
Contact Info :
- Tel. : 02-058-2699
- Facebook : H dining

---

Tangible Bangkok

Tangible Bangkok พื้นที่เชื่อมผู้คนกับศิลปะได้อย่างลงตัว ภายในคาเฟ่ ที่ถูกคิดมาอย่างตั้งใจในทุก ๆ ส่วนตั้งแต่แนวคิด วัสดุ และฟังก์ชันหลากหลาย แก่นหลักของร้านคือ หยิบสิ่งธรรมดามาทำให้ไม่ธรรมดา เราสนใจกับกระบวนการความคิดสร้างสรรค์มากกว่าใช้วัสดุ
 

เมื่อเราเริ่มเปิดประตู ร้านชั้น 1 เข้ามา ก็ได้ความรู้สึก Future Realistic เหมือนเข้าสู่โลกเหนือจินตนาการ ด้วยแมททีเรียลโลหะ สแตนเลส และอะลูมิเนียม บวกกับโทนเข้มสีเทามันวาว ที่ชวนให้ความรู้สึก เหมือนท่องอยู่ในโลกอนาคต แต่พอเดินขึ้นไปชั้นบน “Holocene” Design Episode ล่าสุดของ Tangible ทางร้านได้นำเสนอ คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากช่วงเวลาปลายปี เดือนแห่งการเดินทางเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้นึกถึงบรรยากาศความหม่นของแสงแดด
 

พร้อมรองรับให้ทุกคนแวะเวียนกันมาเสพงานศิลป์ ใช้เวลาไปกับสิ่งรอบตัว ๆ เพื่อต่อยอดจินตนาการจาก ‘ความดิบ’ ของทุก ๆ มุมภายในร้านได้อย่างเพลิดเพลิน

Name : Tangible Bangkok
Hours : 9.00 - 18.00 น. / 9.00 - 19.00 น. (weekend)
ร้านปิดวันอังคาร
Location : ซอยมาตานุสรณ์ ปากซอยเจริญกรุง 82
Contact Info :
- Tel. : 081-376-0402
- Facebook : Tangible

---

FICS

คาเฟ่สำหรับ Film Lover ที่ทำขึ้นเพื่อให้คนรักหนังได้มีพื้นที่มานั่งคุยกัน โดย FICS ย่อมาจาก F = Film / I = Inspired / C S - Coffee, Concept Store, Community Space ซึ่งภาพรวมทุกอย่างของร้านก็ได้นำเสนอความเป็น Film Lover ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านที่ดูคล้ายกับโรงหนัง มีตู้ถ่ายรูป Sculpture x FICS Photoautomat ในธีมจากภาพยนตร์เรื่อง Amélie หรือแม้แต่เมนูอาหารก็ยังคงครีเอตล้อไปกับคอนเซปต์หนัง และใช้การตกแต่งออกมาในโทนสีขาวเรียบง่ายสไตล์มินิมอลควบคู่ไปกับความคลาสสิกของโรงหนังวินเทจ ที่ไม่ว่ามุมไหนของร้านก็ดู Photogenic ไปทุกมุม

Name : FICS
Hours : 7.30 - 17.30 น.
Location : ซอยสุขุมวิท 31
Contact Info :
- Facebook : FICS

จะสิ้นปีแล้วเที่ยวได้! ถึงเวลากางปฏิทินเตรียมใบลา ปักหมุดออกเดินทางไปชาร์จแบตให้ตัวเองกันหน่อย แต่เป็นกันไหมที่หลายครั้งอยากไปสร้างแลนด์มาร์คใหม่ พอถึงเวลาเตรียมตัวจองทีไร ดันกลับไปเที่ยวที่เดิมทุกครั้ง วันนี้เรามาดูกันว่า ทำไมประเทศยอดฮิตเหล่านี้ถึงมีนักท่องเที่ยวกลับไปเที่ยวซ้ำไม่รู้เบื่อ

​เการักที่เกาหลี

‘อปป้า ซารางเฮ’ ดั้งเดิมเราเริ่มไปเที่ยวเกาหลีเพราะอปป้าในซีรีย์ ตามรอยฉากดังสุดฟินต่างๆ แต่กลับมาแล้วมันไม่จบง่ายๆ เพราะเกาหลีมีดีมากกว่าละคร  ยิ่งอาหารการกินนี่เพลินทั้งวัน สามชั้นย่าง ข้าวยำบิบิมบับ ไปจนถึงคาเฟ่เก๋ๆ ดีไซน์สวยๆ ไปเที่ยวหน้าหนาวช่วงนี้ ยิ่งฟิน สายกินก็เพลิน สายละครก็ฟิน ส่วนสายช้อปยิ่งใจเต้น เพราะแฟชั่นเกาหลีเขาก็ไม่เบานะจ๊ะ

อาริงาโตะ ขอกลับไปอีกเดส! 

ใครไปญี่ปุ่นแล้วไม่อยากไปอีกบ้าง ไม่มีแน่นอน! ด้วยความเป็นระเบียบของบ้านเมืองและความน่ารักของผู้คน พร้อมทั้งบรรยากาศสุดพิเศษของทั้ง 4 ฤดู ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ จนกลับไปเก็บให้ครบทุกเมืองทุกฤดูกาล ถ้ากำลังคิดจะไปญี่ปุ่นช่วงนี้อย่ารีรอ ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ซดราเมนร้อนๆ คลายหนาว หรือจะซูชิ ซาซิมิสดๆ คิดแล้วก็... จองตั๋วกัน!

ไฮแฟชั่นไง ที่ปารีส

จุดหมายในฝันของหลายคนที่ชีวิตนี้ต้องไปเที่ยวให้ได้ก็ต้อง ‘ยุโรป’ มนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรม ผู้คนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ทำให้หลายคนกลับไปไม่รู้เบื่อ และหนึ่งในเมืองฮิตที่คิดจะไปเที่ยวแถบนี้ควรไปที่สุดก็ต้อง “ปารีส” ฝรั่งเศส เพราะที่นี่มีจุดท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะสายช้อปห้ามพลาด แบรนด์ราคาดีงาม หรือไอเทมเด็ดที่ตามหา อาจหาเจอที่นี่!

เดินเพลินกลางกรุงโรม

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว มันจะอลังการขนาดไหน ต้องไปชมกับตาให้ได้ สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่สวยงามตาโต ที่บอกถึงความเฟื่องฟูในอดีตได้เป็นอย่างดี โรมยังเป็นหนึ่งในเมืองโรแมนติก ที่ตึกรามบ้านช่องสวยงามแตกต่างตามฤดูกาล ไปซัมเมอร์ก็คูล ไปหน้าหนาวตอนนี้ก็ยิ่งสวย

ใครไม่เยี่ยม เบลเยียม

อีกประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวเมื่อเริ่มกางแผนไปเยือนยุโรป เพราะเบลเยียมมีจุดแลนด์มาร์กมากมาย และยังเด่นดังกับ waffle และเบียร์ผลไม้ หลายคนชอบในความชิล แค่เดินเล่นชมตึกสวยๆ แวะจิบกาแฟพลางมองดูผู้คนเดินไปมา ก็อิ่มใจจนประทับใจ อยากกลับไปสโลไลฟ์ที่นั่นอีกครั้ง

ลี่เห็นเพื่อน ๆ ชาวออฟฟิศที่ทำงานอยู่บ้านบ่นปวดเมื่อยตัว ปวดต้นคอ หรือที่เราเรียกกันว่า ออฟฟิศซินโดรม นั่นก็เป็นเพราะว่า เรานั่งทำงานหน้าคอมในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ ไม่ได้ลุกขยับตัวไปไหน หรือเกิดจากยกของผิดท่า และนอนหลับผิดท่า จึงทำให้เกิดอาการตึงของกล้ามเนื้อ ปวดล้าบริเวณกลางหลังและปีกหลังได้ 👩
 

 
วิธีที่ช่วยลดอาการปวดหลังได้นอกจากออกกำลังกาย สร้างความแข็งแรง และยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลัง ท่านอนก็สำคัญไม่แพ้กันนะคะ ลี่ขอแชร์ 3 ท่านอนใช้หมอนหนุนลดอาการปวดหลังค่ะ
 

🌜นอนตะแคงข้างก่ายหมอน

นอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งที่ถนัด แล้วหนุนหมอนที่ศีรษะตามปกติ งอเข่าทั้งสองข้างและวางหมอนหนุนไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เข่าที่อยู่ด้านบนแตะกับที่นอน ไม่ทำให้เกิดอาการปวดหลังและสะโพกได้
 

🌜นอนหงายหนุนเข่า

ให้นอนหงายโดยการใช้หมอนหนุนที่ศีรษะ ปล่อยตัวตามสบาย ไม่ต้องเกร็ง แล้ววางหมอนหนุนอีกใบไว้ใต้หัวเข่าทั้งสองข้าง เพื่อช่วยรักษาความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง สำหรับการนอนท่านี้ เหมาะกับคนที่มีอาการปวดหลังไม่รุนแรง
 

🌜หากไม่สามารถนอนท่าอื่น ๆ ได้ ให้นอนคว่ำหนุนอกและสะโพก

โดยนำหมอนมาหนุนบริเวณช่วงคอและหน้าอกส่วนบน หันใบหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง และนำหมอนหนุนอีกใบวางไว้ใต้บริเวณสะโพก วิธีนี้จะช่วยลดความตึงของแผ่นหลังได้ หรือหากมีอาการเจ็บปวดอยู่ ให้นำหมอนหนุนที่ศีรษะออก

3 ท่านอนนี่เป็นวิธีส่วนหนึ่งที่ช่วยลดอาการปวดหลังได้เบื้องต้น หากเพื่อน ๆ มีอาการปวดหลังรุนแรง ลี่แนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ
Source : https://bit.ly/3iCz0pT , https://bit.ly/3lOUv8Y

 

มิจฉาชีพ คืออาชีพที่ผิดกฎหมาย มีรูปแบบการหลอกที่ถูกปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ซึ่งถ้าย้อนไปในอดีตจะมีตั้งแต่จดหมายลูกโซ่ แชร์ลูกโซ่ โทรมาหลอกว่าได้รับรางวัลหรือได้มรดก หลอกให้ไปเข้าร่วมเครือข่ายขายตรง ชวนลงทุน ชวนเทรดทอง เทรดหุ้น และอ้างว่าได้ผลตอบแทนที่ดี หรือหลอกให้รักให้ผูกพันจนสุดท้ายให้โอนเงินให้ ทั้งหมดนี้คือการหลอกที่เคยมีมาแล้ว และบางวิธีก็ยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่วิธีการก็จะเปลี่ยนไปเพื่อให้แนบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือหลอกให้โอนเงิน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้เท่าทันมุกของมิจฉาชีพพวกนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หรือใครที่พลาดเข้าแล้ว เราก็จะพาไปดูวิธีดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

1.หลอกให้โอนเงิน
การหลอกรูปแบบนี้จะพบได้เยอะที่สุด มีทั้ง “ติดต่อจากธนาคารxxx คุณมียอดบัตรเครดิตค้างชำระ”, “ติดต่อจากxxx คุณได้รับรางวัลใหญ่ รบกวนดำเนินการจ่ายค่าภาษีก่อนเพื่อรับของรางวัล”, “ติดต่อจากขนส่ง คุณมีพัสดุตกค้าง”, “จำเราได้มั้ย? เราคือxxxไง ที่เคยเรียนด้วยกัน มาซื้อของแบตฯหมดโอนเงินไม่ได้ ขอยืมเงินหน่อยเดี๋ยวมีแบตคืนเลย”, “ติดต่อจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน” และวิธีการล่าสุดคือหลอกให้เราโอนเงินไปแล้ว 1 รอบ แล้วสวมรอยเป็นตำรวจที่จะมาช่วยคดีอีก 1 ครั้ง เพื่อให้เราโอนเงินเพิ่มไปอีก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะหลอกให้เราโอนเงินด้วยวิธีการต่างๆ มีทั้งให้โอนตามยอดที่แจ้ง หรือถึงขั้นให้โอนไปทั้งหมดในบัญชีโดยอ้างว่าจะนำไปตรวจสอบ มีเคสตัวอย่างดังนี้ https://www.one31.net/news/detail/70367, https://www.thairath.co.th/news/crime/2794555

วิธีป้องกันมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน ตั้งสติ ระวัง สังเกต และอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ (ถ้าเป็นการหลอกให้รัก แนะนำให้ตรวจสอบถึงตัวตนจริงของบุคคลนั้นโดยใช้วิธีการสืบค้นรูปภาพบนกูเกิลอิมเมจ https://images.google.com หากพบว่ารูปโปรไฟล์ที่ใช้เป็นรูปของบุคคลอื่นสามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นมิจฉาชีพ) ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลทางการเงิน แม้กระทั่งรหัส OTP เพื่อป้องการการนำข้อมูลไปใช้ทำธุรกรรม ปรึกษาพูดคุยกับคนในครอบครัว เพื่อจะช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ จำกัดวงเงินการเบิกถอนต่อวันเพื่อลดความเสี่ยง

สามารถตรวจสอบรายชื่อ รวมถึงเลขที่บัญชีของผู้ค้าออนไลน์ เพื่อเช็กประวัติว่าเคยมีการฉ้อโกงหรือไม่ ได้ที่ https://www.blacklistseller.com/

2.หลอกให้กดลิ้งก์
มีทั้งการส่ง sms, Line, Messenger โดยทุกช่องทางจะมีการแนบลิ้งก์ให้เรากดเข้าไปเพื่อดูดเงินในบัญชีของเรา และวิธีการใหม่ล่าสุดคือการส่ง sms มาด่าเรา อ้างว่าเราไปเที่ยวกับคนที่ไม่ใช่แฟน พร้อมแนบลิ้งก์ให้กดเข้าไปดูรูป แต่จริงๆแล้วมันคือการที่ต้องการคลิกลิ้งก์เพื่อที่จะติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงินจากบัญชีของเรา

วิธีป้องกันมิจฉาชีพหลอกให้กดลิ้งก์ติดตั้งแอปดูดเงิน ห้ามคลิกลิ้งก์ต่างๆ ที่ส่งมาในทุกช่องทางโดยเด็ดขาด!

3.หลอกลงทุน
การหลอกลงทุนเกิดขึ้นในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน มีทั้งแบบแชร์ลูกโซ่ หลอกให้ไปเข้าร่วมเครือข่ายขายตรง หรือจับสินค้าที่เป็นกระแสและหลอกให้มาพรีออเดอร์สินค้าไปขายต่อ อย่างกรณีล่าสุดที่มีการหลอกพรีออเดอร์ Art Toys โดยกลลวงของมิจฉาชีพพวกนี้คือจะส่งของในล็อตแรกก่อน เพื่อสร้างความเชื่อใจกับลูกค้า พอเราเห็นว่าล็อตแรกได้ของจริง แม่ค้าก็จะลงเงินมากขึ้น เพราะช่องว่างของสินค้าประเภทนี้คือการรอสินค้านาน แม่ค้าก็ไม่อยากเสียโอกาสทำกำไรในช่วงที่กำลังมีกระแส จึงมักจะสั่งของทีเดียวในจำนวนเงินที่มาก อย่างที่เป็นข่าว https://mgronline.com/crime/detail/9670000049775

 

หรือในกรณีการหลอกลงทุนที่แนบเนียนขึ้นมากอีกขั้น คือการชวนเทรดทอง หรือการลงทุนในหุ้น โดยแอบอ้างผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการอย่าง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร หรือคุณกวี ชูกิจเกษม ที่ล้วนเป็นนักลงทุนแบบ VI (Value Investment หรือการลงทุนแบบเน้นคุณค่า) ชื่อดังของไทย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เราอยากจะประสบความสำเร็จในการลงทุนแบบบุคคลเหล่านี้ โดยรูปแบบการหลอกคือ ใช้ AI เข้ามาเพื่อสร้างความแนบเนียน อย่างเช่นโปรแกรม Deepfake เพื่อทำให้ภาพใบหน้าและเสียงของผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแนบเนียนขึ้น และยิงโฆษณาไปตามกลุ้มเป้าหมานผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก เพื่อชวนนักลงทุนแอดเข้ากรุ๊ปไลน์ เพื่อให้คำแนะนำด้านการลงทุน และหลอกเงินจากผู้ที่หลงเชื่อ อย่างที่เป็นข่าว https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1116067

 

วิธีป้องกันมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุน
ตั้งสติ ระวัง สังเกต และอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ หาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน เช่น การหาข้อมูลว่าผู้มีชื่อเสียงท่านนั้นมีเฟซบุ๊กจริงๆมั้ย? หรือ ผู้มีชื่อเสียงท่านนั้นอยู่ บริษัทหลักทรัพย์อะไร และให้ตั้งข้อสงสัยก่อนว่าบุคคลเหล่านี้จะมาสอนเราลงทุนผ่านไลน์ได้จริงๆใช่มั้ย? หรือสอบถามไปยังบริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้มีชื่อเสียงท่านนั้นทำงานอยู่

 

หากโดนหลอกเข้าแล้ว ควรทำยังไงต่อ?

• เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อเป็นการแสดงตัวตนของผู้เสียหาย

• ให้เก็บหลักฐานการโอนเงิน และเก็บภาพข้อความการพูดคุยกับคนร้ายผ่านช่องทางต่าง ๆ เก็บชื่อบัญชี ภาพโปรไฟล์ และข้อมูลของคนร้ายไว้ให้มากที่สุด เพื่อเป็นหลักฐานในการแจ้งความ

• โดยสามารถแจ้งความได้ที่

  • แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อลงบันทึกและออกเอกสารสำหรับประสานงานต่อไปยังสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องต่อไป

  • แจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ https://www.thaipoliceonline.com (สามารถแจ้งความออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง)

  • โทร 1441 แจ้งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ โทร 1599 สายด่วน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

เชื่อว่าหลายคนเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็มักจะพยายามหักห้ามใจไม่ให้ช้อปปิ้งเกินงบที่ตั้งไว้ ซึ่งมันก็ยากเหลือเกิน... แต่วันนี้เรามี 4 Checklist ที่จะทำให้คุณใช้จ่ายได้คุ้ม และได้เงินเหลือช้อปปิ้งได้มากกว่าเดิมอีกด้วย พร้อมแล้วมาเช็คกันว่ามีอะไรบ้าง

1. เช็คก่อนจ่าย
บางประเทศใช้บัตรจ่ายจะถูกกว่าเงินสด เช่น ที่เกาหลีบางร้านหากคุณซื้อด้วยเงินสด จะไม่ได้รับส่วนลดอะไรเลย หรือที่กรุงวอชิงตันดีซี ประเทศอเมริกา ร้านค้าหลายร้านเริ่มไม่รับเงินสดแบบจริงจัง ต้องวางแผนการแลกเงินไปให้ดี เหลือกลับมาแลกอาจไม่คุ้ม

 

2. เช็ค TAX REFUND
เช็คให้ดีว่าประเทศที่คุณไป มี TAX REFUND ที่ขั้นต่ำเท่าไหร่ บางที่ยิ่งซื้อเยอะ ยิ่งได้ % เงินคืนที่เยอะขึ้นมาก ทำให้วางแผนในการรวมยอดซื้อกันได้

 

3. เช็คบัตรเครดิต
แน่นอนว่าส่วนใหญ่ของขาช้อป ต้องมีบัตรเครดิตสำรองไว้ในกรณีที่เงินสดไม่พอ แต่จริง ๆ แล้วการใช้บัตรเครดิตจ่ายอาจทำให้ได้ของหรือจองห้องพักในราคาถูกลงโดยไม่ต้องรอพึ่งโปรโมชั่นเลย อย่างบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ที่ให้เครดิตเงินคืนสูงสุด 12,000 บาท* เมื่อสะสมยอดช้อปเป็นสกุลเงินต่างประเทศ บัตรเครดิต ใช้ต่างประเทศให้คุณท่องเที่ยวได้สนุก ช้อปปิ้งได้เต็มที่ไม่ต้องกังวล เรียกได้ว่ามีบัตรดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

 

4. เช็คเทียบราคา
ไม่ใช่ว่าซื้อของจากต่างประเทศจะถูกกว่าซื้อที่ไทยเสมอไป เพราะบางครั้งค่าเงินที่ขึ้นลง ก็มีผลต่อราคาสินค้าด้วย ดังนั้นอย่าลืมลองคิดเป็นสกุลเงินไทยแล้วเทียบกับราคาที่ขายในประเทศ คุณจะได้ไม่ต้องเสียพื้นที่กระเป๋าไปฟรีๆ ด้วยนะ

 

เพียงเท่านี้คุณก็ได้มีเงินเหลือไว้เที่ยว ไว้ช้อปปิ้งได้อีกเยอะเลยล่ะ! ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งต่อไปอย่าลืมเช็คก่อนจ่ายกันนะ

เราคนไทยเองอาจจะเคยชินกับประเทศของเรา ทำให้รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรใหม่ๆ ให้น่าค้นหา ทั้งเรื่องของอากาศร้อน บางเดือนก็ฝนตกอาจจะเป็นอุปสรรคของการท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วยเช่นกัน จึงทำให้คนไทยอยากจะออกไปค้นหาอะไรใหม่ๆที่ต่างประเทศ เพื่อได้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างออกไป หรืออยากไปสัมผัสอากาศเย็นๆ แบบที่เมืองไทยไม่ค่อยมี แต่จะให้ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ ก็คงจะไม่ไหวเก็บเงินกันไม่ทัน ไหนจะวันลาพักร้อนที่มีจำกัด วันนี้เราขอนำเสนอที่เที่ยวใหม่ๆ ในประเทศไทย “เที่ยวในไทย แต่ได้ Vibe ต่างประเทศ” มาฝาก เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับเพื่อนๆ บอกได้เลยถ่ายรูปยังไงก็ดูเหมือนฟีลต่างประเทศ ได้สัมผัสกับการเที่ยวเมืองไทยแบบใหม่ๆกันดู จะมีที่ไหนบ้างติดตามกันได้เลย!

1. “เลยดั้น” แอนเทอโลป แคนยอน เมืองไทย
ใครเห็นวิวนี้คงอดคิดไม่ได้ว่าที่นี่ใช่หุบเขาหินทรายแห่งรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือเปล่า? ต้องขอบอกว่าไม่ใช่เพราะที่นี่คือ “เลยดั้น ลานหินมหัศจรรย์แห่ง จ.เพชรบูรณ์” มีลักษณะเป็นลานหินกว้างที่ตั้งอยู่ในแม่น้ำ ลักษณะของลานหินของเลยดั้นนี้ สวยงาม แปลกตา และมีรูปล่างลักษณะเป็นโพรงจำนวนมากเกิดจากการที่หินทรายถูกสายน้ำกัดเซาะเป็นเวลานานทำให้หินเหล่านี้มีลักษณะเป็นรูโพรงและผาหินขวางอยู่กลางแม่น้ำจนเกิดเป็นภาพที่สวยงามแบบนี้
📍ตั้งอยู่ในบ้านห้วยกะโปะ หมู่ 6 ต.หลักด่าน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : มีนาคม - พฤษภาคม (เป็นช่วงน้ำลด ลานหินจะโผล่พ้นน้ำ)

2. “เกาะพระทอง” ซาฟารีเมืองไทย
เกาะพระทอง มีพื้นที่ 102 ตร.กม. เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพังงา เกาะนี้เกิดจากซากปะการังทับถมกันมาอย่างยาวนานล้านปี จนกระทั่งกลายเป็นเกาะที่มีสภาพภูมิประเทศที่แปลกตาแบบนี้ คือจะมีลักษณะค่อนข้างแบนราบ ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเกาะแห่งนี้ ทิศตะวันออกจะเป็นแนวป่าโกงกาง ทิศตะวันตกเป็นหาดทราย ส่วนบริเวณกลางเกาะเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาขนาดใหญ่ที่มีต้นเสม็ดแคระ ขึ้นกระจายอย่างสวยงามมาก จนได้รับฉายาว่า “แอฟริกาเมืองไทย”
📍เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : เปิดตลอดทั้งปี (แต่ถ้าอยากเห็นทุ่งหญ้าสีทองแนะนำให้มาช่วงพฤศจิกายน-เมษายน)

3. “บ้านท่าฤทธิ์ จุดชมวิวท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” บรรยากาศเหมือนอยู่นิวซีแลนด์
บรรยากาศที่มีทุ่งหญ้าสีเขียว มีน้องวัว น้องแพะ เล็มหญ้า และวิวพื้นหลังเป็นภูเขา คงทำให้หลายๆคนนึกถึงบรรยากาศของประเทศนิวซีแลนด์ แต่จริงๆแล้วที่นี่คือ “บ้านท่าฤทธิ์ จุดชมวิวท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรี” ช่วงที่สวยที่สุดคือช่วงที่น้ำในเขื่อนลด เพราะจะมีหญ้าเขียวขจีกว้างทั่วลาน ที่นี่ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 3 ชั่วโมง แนะนำให้ไปถึงช่วงเย็นๆจะได้ไม่ร้อนมาก และเป็นช่วงเวลาที่แสงสวยอีกด้วย

📍บ้านท่าฤทธิ์ ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์, อ.วังม่วง จ.สระบุรี
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : เมษายน-กรกฏาคม (ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) (ฝูงแพะจะมาประมาณ 15.00 น.- 17.30 น.)

4. “หาดหงส์” ซาฮาร่าเมืองไทย
ใครยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวทะเลทรายซาฮาร่าที่ประเทศโอมาน ลองมาสัมผัสซาฮาร่าเมืองไทยกันดูก่อนก็ได้นะ ลองมาที่ "หาดหงส์ จ.อุบลราชธานี" ได้ฟีลวิวทะเลทราย เพราะในช่วงหน้าแล้งจะเกิดเป็นสันทรายสูงสีเหลืองนวลเนียนละเอียดในยามแม่น้ำโขงลด ความกว้างใหญ่ของเนินทรายทำให้ที่นี่ถูกขนานนามว่าเป็น “ทะเลทรายเมืองไทย” เลยทีเดียว
📍บ้านโป่งเป้า ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : ธันวาคม - พฤษภาคม (เพราะเป็นช่วงน้ำลด)

5. “ทุ่งแสลงหลวง” ทุ่งสะวันนาเมืองไทย
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย มีความโดดเด่นที่หลายคนขนานนามว่า “ทุ่งสะวันนาของเมืองไทย” มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างใหญ่อยู่ใกล้ที่ทำการหน่วยหนองแม่นา ถ้าโชคดีคุณจะได้พบสัตว์ป่าที่ออกมาหากินยามเช้า เช่น กวาง และสัตว์กินพืชอื่นๆ ในขณะเดียวกันในช่วงกลางคืนสัตว์ป่าหลายชนิดก็ออกมาหากินตามโป่งกลางทุ่งหญ้านี้เช่นกัน โดยทางอุทยานมีกิจกรรมส่องสัตว์ป่ายามค่ำคืนอีกด้วย
📍ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
🗓️ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยว : เปิดทุกวัน 08.30 น. – 16.30 น. (อากาศจะหนาวช่วงพฤศจิกายน – มกราคม)

ในยุคปัจจุบันการเลือกบัตรเครดิตใบแรกคงเป็นสิ่งที่ตัดสินใจยากมากๆสำหรับมือใหม่ เพราะนอกจากจะมีบัตรหลากหลายประเภทให้เลือกแล้ว ในแต่ละประเภทก็มีสิทธิประโยชน์และรายละเอียดต่างๆที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ไหนจะความกังวลได้บัตรมาจะคุ้มค่าจริงไหม? ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้จริงหรือเปล่า? ทำให้ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตใบแรกต้องศึกษาและหาข้อมูลเป็นอย่างมาก จนอาจทำให้เกิดความสับสนไปพร้อมกันเลยทีเดียว

ดังนั้นวันนี้เรามาช่วยเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ให้กับผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตรายใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การหาบัตรเครดิตที่ใช่ คุ้มค่า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ สิ่งที่ต้องระวังในการใช้บัตร พร้อมแล้วไปดูกันได้เลย!

เช็กที่ 1: เช็กความพร้อมเรื่องวินัยทางการเงิน
สิ่งที่มือใหม่มักพลาด คือการลืมเช็กความพร้อมทางด้านการเงินของตัวเองก่อน เพราะถึงแม้ว่าบัตรเครดิตจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้ เช่น การใช้ในกรณีฉุกเฉิน การผ่อนชำระ และการรูดก่อนจ่ายทีหลังตอนถึงรอบ แต่!!! ต้องอย่าลืมว่าถ้าเราขาดวินัยทางด้านการเงิน บัตรเครดิตก็ทำให้เราเป็นหนี้ได้เช่นกัน ถ้าคุณยังมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ยังต้องยืมเงินคนอื่นมาใช้จ่าย หรือเงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือนเลยต้องการบัตรเครดิตมาเพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติม คุณอาจต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในการสมัครบัตรเครดิตอีกครั้ง

 

เช็กที่ 2: เช็กไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
เพราะในปัจจุบันบัตรเครดิตมีหลากหลายประเภทให้เลือก เราจึงแนะนำให้คุณตั้งต้นจากการเช็กไลฟ์สไตล์ของตัวเองก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้อมูลในบัตรที่ไม่ตอบโจทย์เรา เช่น ชอบเที่ยวในประเทศ, ชอบเที่ยวต่างประเทศ, ชอบช้อปปิ้งในห้าง, ชอบช้อปปิ้งออนไลน์, ชอบกิน, ชอบสั่งเดลิเวอรี่ หรือเน้นผ่อนสินค้า เพื่อหาบัตรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด

เช็กที่ 3: เช็กเงื่อนไขการสมัครและสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ในแต่ละประเภทของบัตรเครดิตก็จะมีเกณฑ์การสมัครที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องของ อายุ, รายได้ และเอกสารประกอบการพิจารณาต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยให้คุณพิจารณาว่าตรงกับความต้องการหรือไลฟ์สไตล์ของตัวเองหรือเปล่า และอย่าลืมตรวจสอบค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ยต่างๆ ให้รอบคอบและครบถ้วน ได้แก่

 

เช็กที่ 4: เช็กไว้ในใจ ท่องจำให้ขึ้นใจว่า!
ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16%

 

 

ในยุคปัจจุบันการเลือกบัตรเครดิตใบแรกคงเป็นสิ่งที่ตัดสินใจยากมากๆสำหรับมือใหม่ เพราะนอกจากจะมีบัตรหลากหลายประเภทให้เลือกแล้ว ในแต่ละประเภทก็มีสิทธิประโยชน์และรายละเอียดต่างๆที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ไหนจะความกังวลได้บัตรมาจะคุ้มค่าจริงไหม? ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้จริงหรือเปล่า? ทำให้ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตใบแรกต้องศึกษาและหาข้อมูลเป็นอย่างมาก จนอาจทำให้เกิดความสับสนไปพร้อมกันเลยทีเดียว

.
ดังนั้นวันนี้เรามาช่วยเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ให้กับผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตรายใหม่ ไม่ว่าจะเป็น การหาบัตรเครดิตที่ใช่ คุ้มค่า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง รวมถึงข้อกำหนดต่างๆ สิ่งที่ต้องระวังในการใช้บัตร พร้อมแล้วไปดูกันได้เลย!

 

---

💳เช็กที่ 1: เช็กความพร้อมเรื่องวินัยทางการเงิน

สิ่งที่มือใหม่มักพลาด คือการลืมเช็กความพร้อมทางด้านการเงินของตัวเองก่อน เพราะถึงแม้ว่าบัตรเครดิตจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้ เช่น การใช้ในกรณีฉุกเฉิน การผ่อนชำระ และการรูดก่อนจ่ายทีหลังตอนถึงรอบ แต่!!! ต้องอย่าลืมว่าถ้าเราขาดวินัยทางด้านการเงิน บัตรเครดิตก็ทำให้เราเป็นหนี้ได้เช่นกัน ถ้าคุณยังมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ยังต้องยืมเงินคนอื่นมาใช้จ่าย หรือเงินไม่พอใช้ในแต่ละเดือนเลยต้องการบัตรเครดิตมาเพื่อใช้จ่ายเพิ่มเติม คุณอาจต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในการสมัครบัตรเครดิตอีกครั้ง

 

---

💳เช็กที่ 2: เช็กไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

เพราะในปัจจุบันบัตรเครดิตมีหลากหลายประเภทให้เลือก เราจึงแนะนำให้คุณตั้งต้นจากการเช็กไลฟ์สไตล์ของตัวเองก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาข้อมูลในบัตรที่ไม่ตอบโจทย์เรา เช่น ชอบเที่ยวในประเทศ, ชอบเที่ยวต่างประเทศ, ชอบช้อปปิ้งในห้าง, ชอบช้อปปิ้งออนไลน์, ชอบกิน, ชอบสั่งเดลิเวอรี่ หรือเน้นผ่อนสินค้า เพื่อหาบัตรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด  

 

---

💳เช็กที่ 3: เช็กเงื่อนไขการสมัครและสิทธิประโยชน์ต่างๆ

ในแต่ละประเภทของบัตรเครดิตก็จะมีเกณฑ์การสมัครที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องของ อายุ, รายได้ และเอกสารประกอบการพิจารณาต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยให้คุณพิจารณาว่าตรงกับความต้องการหรือไลฟ์สไตล์ของตัวเองหรือเปล่า และอย่าลืมตรวจสอบค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ยต่างๆ ให้รอบคอบและครบถ้วน ได้แก่

• ค่าธรรมเนียมแรกเข้า, ค่าธรรมเนียมรายปี และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เราต้องจ่ายให้ผู้ออกบัตร
• รอบระยะเวลาบัญชี (รวมถึงระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในแต่ละรอบบิล ก่อนจะเริ่มคิดดอกเบี้ยตามที่ได้กำหนดไว้)
• การชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ (รวมถึงค่าใช้จ่ายในการชำระเงิน)
   

 

💳เช็กที่ 4: เช็กไว้ในใจ ท่องจำให้ขึ้นใจว่า!

• ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16%
• เดือนมกราคม 2567 เริ่มการปรับเพิ่มอัตราจ่ายขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิต เป็น 8% ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย

มือใหม่ที่กำลังมองหาบัตรเครดิตใบแรก! ลองเช็กบัตรเครดิตใบนี้แล้วหรือยัง?

บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน เรดซ์ บัตรเครดิตสำหรับคนรุ่นใหม่พร้อมส่วนลดทุกการใช้จ่ายถูกใจทั้งสายช้อป กิน บันเทิง และช้อปออนไลน์ สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ง่ายดั่งใจคิดไม่ยุ่งยาก สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพียงเงินเดือน 15,000 บาท และเข้าเกณฑ์ที่กำหนดก็สามารถเป็นสมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เรดซ์ ได้ทันที! โดยมีสิทธิประโยชน์หลัก

• รับคะแนน The 1 สูงสุด x3* พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 5%* กว่า 5,000 ร้านค้าในเครือเซ็นทรัล  โดยคะแนนเดอะวันไม่มีกำหนด
• ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีสูงสุดตลอดชีพ เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตามเกณฑ์ที่กำหนด*
• รับโปรโมชั่นจากร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

แค่มีแผนออกเดินทางท่องเที่ยวไปที่ไหนสักแห่ง ก็ทำให้หลายคนรู้สึกตื่นเต้น เมื่อนึกถึงวันที่ได้ไปอยู่ที่นั่น วันที่ไม่ต้องไปทำงาน ไม่ต้องรับโทรศัพท์ ไม่ต้องโดนยิงอีเมล์นัดประชุม แต่ได้ใช้เวลากับคนรัก กินอาหารอร่อย ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศใหม่ๆ และเซอร์ไพรซ์กับเรื่องราวในต่างแดน แต่คุณจะยิ่งตื่นเต้นกว่านั้น เมื่อเริ่มจัดการแผนทั้งหมดให้คอมพลีท แล้วเริ่มนับถอยหลัง และนี่พลังของการจัดการทริปให้เสร็จไวกว่าที่คิด

1.​พลังของรอยยิ้ม จากคนที่คุณรัก

ถ้าคุณวางแผนมอบทริปพิเศษให้เป็นของขวัญกับคนพิเศษ อย่างคนในครอบครัวหรือคนรัก พลังจากรอยยิ้มของคนนั้นจะยิ่งกระตุ้นคุณจัดการทริปให้เสร็จเร็วขึ้น แต่คุณต้องทำการบ้านมาให้ดี อย่าวางแผนตามใจตัวเองล่ะ ลองแอบสำรวจว่าเขาอยากไปที่ไหน หรือสนใจเมืองไหน ประเทศไหนเป็นพิเศษ ทริปนี้จะได้เซอร์ไพร์จนตาโต

2.พลังบล็อกเกอร์และเน็ตไอดอล
มั่นใจว่าคุณต้องกดติดตามบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวอย่างน้อย 2-3 คน ไว้เป็นแนวทางวางแผนท่องเที่ยว ยิ่งบล็อกเกอร์คนนั้นอัพเรื่องราวไม่หยุด มือของคุณจะกดจองตั๋วเครื่องบินหรือบุ๊กกิ้งโรงแรมโดยไม่รู้ตัว และนี่คือพลังงานบางอย่างที่ทำให้ทริปคุณเสร็จเร็วขึ้นเฉยเลย

3.พลังแห่งโลวซีซั่น
เพราะโลวซีซั่นทำให้เราไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนเยอะๆ ถ้าโชคดีเราก็ได้วิวและบรรยากาศที่เป็นเหมือนเราคนเดียว และที่สำคัญคือทุกอย่างราคาลงหมดเลย ช่วยคุณประหยัดไปได้อีกเยอะ แต่ก่อนจะจองทริปให้เสร็จเพราะราคาที่ดีงามแล้ว อย่าลืมเช็คอากาศและโรงแรมให้ดีนะ เดี๋ยวหมดสนุกเมื่อไปเจอของจริง

4.พลังแห่งโปรโมชั่น
พลังนี้สำคัญมาก ไม่อยากให้ลืมกันเลยจริงๆ ใช้พลังบัตรเครดิตที่คุณมีอยู่ในมือ เช็คโปรโมชั่นกันด้วยนะ หลายคนพลาดสิทธิพิเศษของบัตรไปมากมาย เพราะบัตรเครดิตมักมีโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษเกี่ยวกับการท่องเที่ยวออกมาตลอดๆ ทั้งร่วมรายการกับสายการบิน โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร บางทีทริปนี้คุณอาจจ่ายแค่ครึ่งเดียวก็ได้

 

ใกล้หน้าร้อนแบบนี้ มาอัพเดทร้านสวย ๆ ที่มีมุมให้ถ่ายรูปลงโซเซียลได้อีกเพียบ กับร้านเด็ดที่ต้อง CHECK-IN กันรัว ๆ เตรียมกล้องให้พร้อมแล้วไปกัน

 

Mid Winter Green

ร้านที่คุณจะรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย ด้วยการตกแต่งที่ดูเป็นปราสาทสไตล์ยุโรป ให้บรรยากาศเรียบหรู สงบ ดูมีความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับทั้งครอบครัว คนรัก และกลุ่มเพื่อน แถมยังมีสวนผักออแกร์นิค ที่นำมาปรุงอาหารให้หลากหลายเมนูให้คุณได้ลิ้มรสด้วยการทำอาหารแบบโฮมเมด รับรองว่าถูกใจทั้งคนชอบถ่ายรูปและชอบการกินแน่นอน

ตั้งอยู่ที่ : ถนนธนะรัชต์ นครราชสีมา (อยู่ติดริมถนนธนะรัชต์)
เบอร์ติดต่อ : 082-452-8888
เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 น. – 23.00 น.
ประเภท : อาหารนานาชาติ
Facebook: MIDWINTERGREEN

---

Jolly Land Starlight Amphitheater

ร้านอาหารและคาเฟ่โรงนาสีขาว ดูอบอุ่น ในรูปแบบชนบทของชาวตะวันตก ใครมาห้ามพลาดเมนูพิซซ่าที่ขึ้นชื่อ มานั่งทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ ยิ่งถ้าใครมาตอนฤดูหนาว ทำให้ยิ่งฟินเป็นสองเท่าเลย เหมาะกับการมาพักผ่อน ถ่ายรูปเล่น



ตั้งอยู่ที่ : 105 ม.2 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายแม่สอด (เขตแดน)–มุกดาหาร เพชรบูรณ์
เบอร์ติดต่อ : 082-393-5091
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ – วันศุกร์10:30 น. – 20.00 น. / วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 10:30 น. – 21.00 น.
ประเภท : เบเกอรี่, อาหารนานาชาติ, อาหารฟิวชั่น
Facebook : jollylandstarlightamphitheater

---

ดงมาดาม      

ร้านที่ไม่ได้สวยแค่รูป แต่จูบก็หอม เต็มไปด้วยดอกไม้ให้เข้า CONCEPT “ดงมาดาม” การตกแต่งจานอาหารก็มีดอกไม้เต็มไปหมด ไม่ว่าหิวแค่ไหนก็ต้องถ่ายรูปก่อน แถมรสชาติอาหารก็อร่อยสุด ๆ ด้วยดีกรีของ “เดี่ยว มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย”

ตั้งอยู่ที่ : 226/37 ซอย 12 บ้านใหม่หลังมอ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 097-926-5696
เวลาเปิดบริการ : วันพุธ - วันจันทร์ เวลา รอบบ่าย: 13.00 น. – 16:00 น. / รอบเย็น: 18:00 น. – 20:30 น.
ประเภท : อาหารไทย, สเต๊ก, เบเกอรี่/เค้ก
Facebook : DongMadame

---

THE SUMMER HOUSE

หลังจากไหว้พระทำบุญกันแล้ว อย่าลืมมาพักผ่อนหย่อนกายได้ที่นี่ บรรยากาศในสวนติดริมแม่น้ำ ทานอาหารเคล้าดนตรีสด อาหารจานเด่นคงไม่พ้นกุ้งแม่น้ำที่ขึ้นชื่อของอยุธยา นอกจากนี้ยังมีขนมหวานปิดท้ายมื้อแบบฟิน ๆ เติมเต็มวันหยุดแบบไม่ต้องไปไหนไกลเลย

ตั้งอยู่ที่ : 77/1 ตำบลเกาะเรียน อยุธยา (ริมถนนหมายเลข 3477 ร้านอยู่ประมาณเกาะเรียนซอย 45)
เบอร์ติดต่อ : 094-224-2223
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 21:30 น.
ประเภท : อาหารไทย, อาหารฟิวชั่น, เบเกอรี่/เค้ก, เครื่องดื่ม
Facebook : thesummerhouse.ayutthaya
 

---

THE LIBRARY BAR

ร้านอาหารเรียบหรู สบายตา ที่แฝงตัวอยู่ในเมืองที่วุ่นวาย อยู่ภายในโรงแรม U Sathorn ตกแต่งแบบ MODERN VINTAGE มีสระว่ายน้ำ และสนามหญ้าสีเขียว ในส่วนของอาหารก็หน้าตาดีไม่แพ้กัน สีสันสดใสตัดกับการตกแต่งของร้านทำให้อาหารดูเด่นขึ้นอีกเท่า

ตั้งอยู่ที่ : 105 ซอยงามดูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
เบอร์ติดต่อ : 02-119-4888
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์- วันอาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 23:00 น.
ประเภท : อาหารไทย,อาหารตะวันตก, ของหวาน, เครื่องดื่ม/น้ำผลไม้
Facebook : USathornBangkok

---

LOVE ME TENDER LE BISTRO       

ร้านอาหารฝรั่งเศสที่ปรุงด้วยเชฟชาวฝรั่งเศส ทำให้รสชาติและสไตล์การตกแต่งเหมือนได้อยู่ฝรั่งเศส ถ้าไม่ CHECK-IN บอก ก็คงไม่รู้ว่าอยู่เมืองไทยเลยล่ะ

ตั้งอยู่ที่ : โครงการ TTN AVENUE ถนนนางลิ้นจี่ กรุงเทพมหานคร (TTN Avenue, 2nd Floor. Room no. A09-A11)
เบอร์ติดต่อ : 02-678-2048
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ 11:00 - 14:30 / 17:30 - 22:00  วันพุธ - วันอาทิตย์ 11:00 - 14:30 / 17:30 - 22:00
ประเภท : อาหารนานาชาติ, อาหารฝรั่งเศส
Facebook : LoveMeTenderThailand

---

เดชทศพักตร์การอาหาร

ใครที่มองหาร้านนั่งสบาย ๆ กินลม ชมวิว ภูเขาและแม่น้ำ นั่งห้อยขาชิลล์ ๆ ระหว่างทานอาหาร แนะนำร้านนี้เลย นอกจากวิวทิวทัศน์ที่โดดเด่นแล้ว รสชาติอาหารก็ไม่แพ้กัน เมนูปลา อาหารทะเล ก็สดสุด ๆ รับรองว่าคุณจะฟินทั้งวิวและรสชาติอาหารแน่นอน

ตั้งอยู่ที่ : ถนนต้นตะเคียน กาญจนบุรี (แพห้อยขาพาชิล)
เบอร์ติดต่อ : 081-587-5159
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี 10:00 น. - 21:00 น.​/ วันศุกร์ - วันอาทิตย์ 10:00 น. - 21:30 น.
ประเภท : อาหารไทย, อาหารทะเล
Facebook : paehoikapachill

---

Sundance Lounge

ร้านที่ใครชอบถ่ายรูปด้วยแสงเงาธรรมขาติจะต้องหลงรัก! ร้านคาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยกระจกใส และต้นไม้สีเขียวดูสดชื่น จุดเด่นของร้านนี้คือใบชาออร์แกนิคที่คัดสรรมาอย่างดี นอกจากนี้ยังมี อาหารคาว และเบเกอรี่ด้วย แถมรสชาติดีไม่แพ้กัน ใครผ่านไปอย่าลืมแวะกันนะ

ตั้งอยู่ที่ : 13/14 หัวหิน 35 ตำบลหัวหิน อำเภอ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
เบอร์ติดต่อ : 092-350-0035
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี 11:00 น. - 21:00 น.​/ วันศุกร์ - วันเสาร์ 10:00 น. - 22:00 น. / วันอาทิตย์ 10:00 น. – 21:00 น.
ประเภท : คาเฟ่, อาหารฟิวชั่น
Facebook : Sundance Lounge - seenspacehuahin

---

DADDY’S ANTIQUE CAFÉ RESTAURANT 

อีก 1 ร้านที่ใหม่เชียงไม่ควรพลาด ร้านออกแบบแนวคลาสสิคผสมความทันสมัย มีทั้งโซน INDOOR และ OUTDOOR  มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ รสชาติอาหารก็เด็ดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมนู FRESH TIRAMISU ที่ทำให้หลายคนติดใจร้านนี้

ตั้งอยู่ที่ : 45/8 หมู่ 1 ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เชียงใหม่
เบอร์ติดต่อ : 094-764-1441
เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 11:00 น. – 22:00 น.
ประเภท : คาเฟ่, อาหารนานาชาติ
Facebook : daddyAntique

---

เช็คลิสต์ร้านอาหารได้แล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้ที่เช็คอินที่พัก วันนี้เรามีที่พักมาแนะนำ รับรองว่าสวยงามไปแพ้กัน บางที่ยังมีโปรโมชั่นดี ๆ แบบได้ห้องวิวสวย และราคางาม ๆ กันด้วยนะ

Tamarind Village

โรงแรมเมืองเหนือเชียงใหม่ ที่มีจุดเด่นคือต้นมะขามขนาดใหญ่ ทำให้พื้นที่โดยรอบโรงแรมร่มรื่นสงบภายในเมืองเก่า เหมาะแก่การพักผ่อนมากๆ

ตั้งอยู่ที่ : 50/1 ถนน ราชดำเนิน ตำบล ศรีภูมิ อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50200
เบอร์ติดต่อ : 053-418-896-9
https://www.tamarindvillage.com/th/contact.php

---

Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya

พัทยาอย่างที่เรารู้จัก คือเป็นแหล่งพักผ่อนไม่ไกลกรุงเทพฯ ของกินร้านอาหาร คาเฟ่มากมาย คิดจะมาพักผ่อนกันทั้งที เราแนะนำที่นี่เลย บรรยากาศธีมดีรีสอร์ท ติดชายหาด

ตั้งอยู่ที่ : 277, อำเภอ บางละมุง ชลบุรี 20150
เบอร์ติดต่อ : 038-301-234
https://www.centarahotelsresorts.com/th/centaragrand/cmbr/

---

Centara Grand Resort & Villas Hua Hin

หากแวะไปหัวหิน เราอยากให้ลองเช็คอินที่นี่ โรงแรมที่บรรยากาศสวยงามมากๆ กับความหรูหรา 5 ดาวที่ยังไงต้องประทับใจกลับบ้าน ที่สำคัญโรงแรมนี้ถือว่าเก่าแก่อันดับต้นๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ จะได้กลิ่นอายความอบอุ่นในการต้อนรับจากพนักงานแบบไทยๆ เป็นอย่างดี

ตั้งอยู่ที่ : 1 Damnernkasem Road, ตำบลหัวหิน อำเภอ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
เบอร์ติดต่อ : 032-512-021
https://www.centarahotelsresorts.com/th/centaragrand/chbr/

ใครเป็นสายเนื้อยกมือขึ้นสูง ๆ! วันนี้ Wongnai เอาใจคนรักเนื้อด้วย 10 ร้านสเต๊กร้านเด็ด เพื่อคนรักเนื้อ อัดแน่นคุณภาพทุกคำ เนื้อแดงฉ่ำ ๆ แถมนุ่มชุ่มลิ้น แค่คิดก็ฟินจนน้ำลายไหลแล้ว พิเศษสุด! เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับส่วนลดสูงสุด 10%* ร้านไหนจะอยู่ในลิสต์กันบ้างไปดูกันเลย!

 

The Steakhouse Co. Bangkok

ใครเป็นสายเนื้อยกมือขึ้นสูง ๆ! วันนี้ Wongnai เอาใจคนรักเนื้อด้วย 10 ร้านสเต๊กร้านเด็ด เพื่อคนรักเนื้อ อัดแน่นคุณภาพทุกคำ เนื้อแดงฉ่ำ ๆ แถมนุ่มชุ่มลิ้น แค่คิดก็ฟินจนน้ำลายไหลแล้ว พิเศษสุด! เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับส่วนลดสูงสุด 10%* ร้านไหนจะอยู่ในลิสต์กันบ้างไปดูกันเลย!

บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร เมื่อทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป
ตั้งอยู่ที่ 9/8 ถนน สีลม (ซอย พัฒน์พงศ์ 2) สีลม , บางรัก , กรุงเทพมหานคร
เบอร์ติดต่อ 061-097-8325
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 17:00 - 01:00
ประเภท : สเต๊ก

---

The Steakhouse Co. Bangkok

ใครเป็นสายเนื้อยกมือขึ้นสูง ๆ! วันนี้ Wongnai เอาใจคนรักเนื้อด้วย 10 ร้านสเต๊กร้านเด็ด เพื่อคนรักเนื้อ อัดแน่นคุณภาพทุกคำ เนื้อแดงฉ่ำ ๆ แถมนุ่มชุ่มลิ้น แค่คิดก็ฟินจนน้ำลายไหลแล้ว พิเศษสุด! เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับส่วนลดสูงสุด 10%* ร้านไหนจะอยู่ในลิสต์กันบ้างไปดูกันเลย!

บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร เมื่อทานครบ 1,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป
ตั้งอยู่ที่ 9/8 ถนน สีลม (ซอย พัฒน์พงศ์ 2) สีลม , บางรัก , กรุงเทพมหานคร
เบอร์ติดต่อ 061-097-8325
เวลาเปิดบริการ ทุกวัน : 17:00 - 01:00
ประเภท : สเต๊ก

---

เครดิต wongnai
ติดตามความอร่อยเพิ่มเติมได้ที่ wongnai.com

จัดเต็มความนุ่มของเนื้อวัวฉ่ำ ๆ เพื่อสายเนื้อตัวจริงกับ 10 ร้านสเต๊กร้านเด็ด เพื่อคนรักเนื้อ อัดแน่นคุณภาพทุกคำ เรียกได้ว่าฟินแบบสุด ๆ และยังพิเศษสุด! เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับส่วนลดสูงสุด 10%* ส่วนใครที่อิ่มเอมกับเนื้อจนจุใจแล้ว ลอง 10 ร้านดัง คอนเซ็ปต์ดี เกิดมาทั้งทีต้องลองสักครั้ง ดูสิ!

---

   เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย อยากสวยทนสวยนานต้องอ่านบทความนี้เลย! หลายคนคงเบื่อกับการที่จะต้องมาเติมหน้าระหว่างวัน และนอกจากเครื่องสำอางจะไม่ติดทนบนหน้าแล้ว ก็ยังมีปัญหาเรื่องการดูแลรักษาเครื่องสำอางให้อยู่กับเราให้มีคุณภาพและนานที่สุดอีก วันนี้มีเคล็ดลับที่ไม่ลับอีกต่อไป มาดูกันว่าว่าจะทำยังไงให้แต่งหน้าแล้วทน เครื่องสำอางที่ซื้อมาก็อยู่กับเรานานที่สุด


เคล็ดลับให้แต่งทีเดียวอยู่!
1.ทำให้ผิวชุ่มชื่นแต่ไม่มัน ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่จะกลัวหน้ามัน และคิดเสมอว่าตัวเองหน้ามัน ก็จะพยายามใช้กระดาษซับมันอยู่ตลอด แต่จริงๆแล้วเราไม่ควรจะทำให้หน้าแห้งจนเกินไป เพราะใบหน้าจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นควรดูแลให้ผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอ
ผิวมัน กับผิวขาดน้ำแตกต่างกันอย่างไร?
ผิวมัน : มีความมันตรงทีโซนและแก้ม, หน้าไม่เป็นขุย, ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมันแล้วเห็นผล
ผิวขาดน้ำ : ใบหน้าแห้งสลับมัน, รูขุมขนกว้าง, มีสิวผดและสิวอุดตัน, แต่งหน้าไม่ติด
เทคนิคการดูแลให้ผิวชุ่มชื่น : ทาว่านหางจระเข้, มาส์กหน้าอาทิตย์ละครั้ง, ใช้สเปรย์น้ำแร่ระหว่างวัน, เลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น, ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
2.บำรุงแต่พอดี ผู้หญิงบางคนกลัวหน้ามีริ้วรอยก็อัดครีมบำรุงมากเกินความจำเป็น พอลงแป้งรองพื้นมันก็หลุด เพราะผิวมันจนไม่สามารถรับอะไรได้อีก ควรทาครีมบำรุงแต่พอดี และไอเทมต้องห้ามเลยคือ “ออยล์” เพราะมันจะทำให้ รองพื้นไหลเยิ้มจนอกจากแป้งรองพื้นจะไม่ติดหน้าแล้วยังแถมสิวอุดตันมาอีกด้วย แนะนำว่าช่วงเช้าให้ทาแค่เจลบำรุงแบบบางเบาก็พอ
3.เกลี่ยรองพื้นด้วยฟองน้ำ เพราะนิ้วมือมีความอุ่น ตอนเกลี่ยอาจรู้สึกว่าผิวมันก็เนียนดี แต่รองพื้นก็ไหลเร็วดีเช่นกัน แนะนำให้ใช้ฟองน้ำแทนดีกว่า จะทำให้รองพื้นติดทนและผิวเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
4.หยุดเอามือจับหน้า ไม่ว่าจะเท้าคาง จิ้มแก้ม ลูบหน้า ขอบอกเลยว่าห้าม! ผู้หญิงท่านไหนที่กำลังทำอยู่ลองเช็ดมือดูตอนนี้เลยว่ามีรองพื้นแอบติดมาหรือเปล่า
5.สเปรย์น้ำแร่ช่วยล็อคเมคอัพ ให้ฉีดบางๆ ทั่วหน้าเมื่อแต่งหน้าเสร็จ รับรองว่าเป๊ะยาวนานกว่าไม่ฉีดแน่นอน ส่วนวันไหนที่รู้สึกว่าระหว่างวันอากาศมันร้อน หน้าเริ่มมัน ก็ยังสามารถฉีดสเปรย์น้ำแร่ระหว่างวันเพื่อช่วยคุมความมันได้อีกด้วย
 

เคล็ดลับการรักษาเครื่องสำอางยังไงให้อยู่นาน คุณภาพไม่มีดรอป
1.เครื่องสำอางแบบไหนห้ามแช่ตู้เย็น คือเครื่องสำอางที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม, เครื่องสำอางที่เป็นผง หรือแท่ง เพราะถ้ามันอยู่ในที่ร้อนหรือเย็นเกินไปจะส่งผลให้เสื่อมสภาพเร็ว ควรเก็บไว้ในที่แห้งและอุณหภูมิปกติ และไม่โดนแสงแดด
2.ไม่ใช้นิ้วสัมผัสเครื่องสำอางที่เป็นของเหลว เพราะเชื้อโรคเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น อาจทำให้เชื้อโรคจากนิ้วของเราแพร่กระจายไปสู่เครื่องสำอางได้ง่าย การปนเปื้อนแบบนี้จะทำให้อายุการใช้งานของเครื่องสำอางลดลง แถมผิวหน้าอาจได้รับเชื้อโรคอีกด้วย
3.อย่าลืมนับวันหมดอายุจากวันที่เปิดใช้ เครื่องสำอางแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน โดยแบ่งได้ดังนี้
เครื่องสำอางที่เก็บได้ 2 ปี : บลัชออน, ไฮไลท์, อายแชโดว์, อายไลน์เนอร์แบบดินสอ, ลิปสติกและดินสอเขียนขอบปาก
เครื่องสำอางที่เก็บได้ 1 ปี : โทนเนอร์, มอยเจอร์ไรเซอร์, แป้งผสมรองพื้น, ครีมต่างๆ
เครื่องสำอางที่เก็บได้ 6 เดือน : รองพื้น, ไพรเมอร์, คอลซีลเลอร์, เบส
เครื่องสำอางที่เก็บได้ 3 เดือน : มาสคารา, อายไลน์เนอร์แบบน้ำและเจล
แต่เพื่อความเซฟแนะนำให้ทำสติกเกอร์แปะวันที่เราเปิดใช้งาน เอาไปแปะไว้บนเครื่องสำอางแต่ละชิ้นจะดีกว่า รับรองไม่มีลืม!
4.หมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า ไม่ว่าจะเป็นแปรง พัฟ ฟองน้ำ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ใช้แล้วควรหมั่นทำความสะอาดเพื่อให้แบคทีเรียไม่เข้าไปสะสม และเข้าไปรวมกับเครื่องสำอางของเรา
5.ไม่ใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น นอกจากเครื่องสำอางของเราอาจปนเปื้อน และอาจทำให้เกินโรคติดต่อต่างๆได้อีกด้วย
 
         รู้เคล็ดลับการแต่งหน้าให้ติดทน และการเก็บเครื่องสำอางที่ซื้อมาให้อยู่กับเราได้นานที่สุดกันไปแล้วก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันนะ และก่อนซื้อเครื่องสำอางก็ต้องห้ามลืมเช็คเลข อย., ดูวันผลิตและวันหมดอายุ, เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออย่าง อาทิ ห้างเซ็นทรัล โรบินสัน

  “วันตรุษจีน” เป็นวันสำคัญของคนไทยเชื้อสายจีน เพราะถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน คนจีนทั่วโลกจะร่วมเฉลิมฉลอง ตามขนบธรรมเนียมที่อาจแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ แต่ที่เหมือนกันก็คือวันนี้นอกจากทุกคนจะมารวมตัวเพื่อฉลองด้วยกันแล้ว สิ่งที่ถือปฏิบัติกันมายาวนาน ก็คือการซื้อของเข้าบ้านเพื่อประดับตกแต่ง กราบไหว้บรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทำอาหารเพื่อรับประทานร่วมกัน งั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่า ตรุษจีนปีนี้ จะออกไปช้อปไปจับจ่ายอะไรยังไงให้เฮง ให้คุ้ม ยิ่งๆ ขึ้นไป

 

จับจ่ายซื้อของไหว้

        ในวันนี้ทุกคนจะเตรียมของไหว้อย่างพิถีพิถัน เพื่อเตรียมไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมหวาน กับข้าวคาว กับข้าวเจ สุรา น้ำชา ข้าวสวย และกระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งผลไม้ที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะก็คือ ส้มมหามงคลสีทอง ที่ชาวจีนเรียกว่าส้มไต่กิก เพราะมีความหมายหมายถึงความสวัสดีมงคลอย่างยิ่ง โดยในช่วงเช้าจะเริ่มไหว้เจ้าที่ และช่วงสายไม่เกินเที่ยงจะไหว้บรรพบุรุษ

จับจ่ายซื้ออาหารรับประทานร่วมกัน

        สิ่งสำคัญของวันตรุษจีนก็คือทุกคนจะมารวมตัวกัน ญาติพี่น้องที่อยู่ไกลไม่เจอกันในรอบปีจะกลับมาพบปะเยี่ยมเยือนกันคึกคักในวันนี้ ซึ่งธรรมเนียมที่ทุกคนต่างทำร่วมกันคือการทำอาหารรับประทานร่วมกัน และอาหารมงคลที่กินแล้วรวย ตัวอย่างเช่น ปลา สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง, เกี๊ยว คือความมั่งคั่ง,ปอเปี๊ยะ ความร่ำรวย, ครอบครัวอบอุ่น, ผลไม้มงคล ความสมบูรณ์และความมั่งคั่ง

 

จับจ่ายประดับตกแต่ง

        ก่อนถึงตรุษจีน ผู้คนจะเริ่มซื้อของเข้าบ้าน เพื่อประดับตกแต่งและทำความสะอาดครั้งใหญ่ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการปัดกวาดสิ่งที่ไม่ดีออกไป สัญลักษณ์ที่เรามักจะเห็นทุกปีก็คือสีแดง ทุกบ้านจะประดับประดาไปด้วยกระดาษสีแดงที่มีคำอวยพรให้อายุยืน ร่ำรวย อยู่ดีมีสุข

จับจ่ายเสื้อผ้าสีมงคล

        ธรรมเนียมสำคัญก็คือใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส สีสว่าง ๆ เช่น สีแดง สีทอง เพราะเชื่อว่าเป็นสีแห่งความสุข ความมงคลความสว่างสดใส และเจิดจ้ามาให้ผู้สวมใส่ รวมทั้งใส่เสื้อผ้าใหม่ เพื่อเอาเคล็ดวันปีใหม่ให้ชีวิตสดใสราบรื่นเบิกบานตลอดปี ส่วนเสื้อผ้าสีขาว สีดำ ถือเป็นสีต้องห้ามในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะเป็นสีไว้ทุกข์ แสดงถึงความโศกเศร้า

ในช่วงปีสองปีมานี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการไปคาเฟ่เป็น Activity ที่ได้รับความนิยมมากในไทย ชนิดที่ว่ามีร้านเปิดใหม่แทบทุกวัน โดยเฉพาะร้านที่ตกแต่งสไตล์มินิมอล แต่ถ้าจะนิยามตัวเองว่าเป็น Café Hopper ก็คงต้องเจอเช็กลิสต์นี้ “รวม 10 ร้านที่สาย Café Hopping ตัวจริงต้องเคยไป” แต่ส่วนใครที่ยังไม่เคยก็อยากจะชวนมาลองทำเป็นชาเลนจ์ พาตัวเองออกไปเจออะไรใหม่ ๆ เพราะอาจได้เจอร้านที่ถูกใจกลายเป็นร้านประจำร้านใหม่ในปีหน้า
.
นอกจากนี้ชาว Cashless Society จะต้องแฮปปี้ เพราะในเช็กลิสต์นี้ทุกร้านรับทั้งพร้อมเพย์และบัตรเครดิต หมดกังวลสำหรับคนไม่พกเงินสด ส่วนใครที่ชอบใช้บัตรก็ยังสามารถสะสมยอดการใช้จ่ายได้ด้วย และขอแอบกระซิบโปรบัตรที่มาแรงในช่วงนี้ อย่างบัตร Central The 1 Credit Card ผู้ใช้จะได้รับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 3% จากยอดที่ใช้จ่าย และยังได้คะแนน The 1 เพิ่มอีก 300 คะแนนในทุกวันศุกร์ เรียกว่าเป็นบัตรเครดิตอีก 1 ใบที่ควรมีไว้ใช้กับร้านที่ไม่มีโปรร่วมกับธนาคาร อย่าปล่อยให้การใช้จ่ายผ่านไปแบบเสียเปล่า ใช้บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน สะสมคะแนนไว้ เพราะสามารถนำไปแลกเป็นส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าภายในเครือ Central Group ได้ ซึ่งถ้าใครสนใจแนะนำให้รีบสมัครทางออนไลน์ตอนนี้ เพราะจะได้รับกระเป๋าล้อลาก Limited Edition มูลค่า 4,990.-* 1 ใบ

 

---

OKONOMI

ร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นน้องใหม่ ที่แนะนำให้ไปก่อน 11 โมงเพื่อที่จะได้ไม่พลาดชิมเซตอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เพราะในช่วงบ่ายจะเหลือแค่เพียงเมนู Bakery กับเครื่องดื่ม เมื่อเดินทางมาถึงสามารถสังเกตได้ไม่ยาก เนื่องจากด้านนอกของตัวร้านจะเป็นบ้านสองชั้นที่ตกแต่งในโทนสีเขียวมิ้นท์เด่นสะดุดตา ส่วนบรรยากาศภายในร้านจะใช้การตกแต่งสไตล์มินิมอลด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ตัดคู่กับผนังสีขาว และกั้นส่วนพื้นที่ด้วยกระจกใส เพื่อให้ร้านดูไม่มืดทึบ คนที่นั่งอยู่ภายในร้านก็ยังสามารถเห็นแสงธรรมชาติได้ เป็นบรรยากาศที่เชื่อว่าไม่ว่าใครไปก็จะรู้สึกว่าสามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน อีกทั้งยังเดินทางไปได้สะดวกเพราะอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ 

Name : OKONOMI
Hours : 8.00 - 18.00 น.
Location : ซอยสุขุมวิท 38
Contact Info :
- Tel. : 061-338-8000
- Facebook : OKONOMI

---

Pulse

ร้าน Pulse โดดเด่นด้วยคอนเซปต์ Coffee • Scenery • Music ที่ตกแต่งสไตล์ทรอปิคอลรีสอร์ท เหมือนเรากำลังไปเที่ยวคาเฟ่ฮิปๆ บนเกาะส่วนตัว มีกลิ่นอายความเป็นคาเฟ่สไตล์เกาหลี ผสมกับความเป็นคาเฟ่บาหลีไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
.
สำหรับการตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ Cozy เน้นการใช้โทนสีขาวๆ ครีมๆ ผสมกับโต๊ะไม้ และเก้าอี้หวาย ให้ความรู้สึกสบาย ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง เดินข้ามสะพานยาวเข้ามาในร้าน จะพบกับร้านกาแฟกลางน้ำ ภายในร้านเปิดโล่งรับลมได้ดีมาก บรรยากาศรอบๆ คือธรรมชาติ มองไปเห็นต้นโกงกางสีเขียว นั่งจิบกาแฟ มองแสงแดดสะท้อนกับน้ำ มีลมเย็นโชยมาและเพลงที่ทางร้านเปิดคือเข้ากับบรรยากาศสุดๆ 

Name : Pulse
Hours : 10.00 - 18.30 น. ปิดวันจันทร์
Location : บางขุนเทียน
Contact Info :
- Tel. : 098-365-2654
- Facebook : Pulse Bangkhunthian

---

Sarnies Roastery

คาเฟ่แบรนด์ดังจากประเทศสิงคโปร์อย่าง ‘Sarnies’ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการขยับขยายสาขาต่อยอดความสำเร็จมาในย่านเพลินจิตที่ซอยต้นสน หยิบยกเอาโรงคั่วกาแฟมาไว้ท่ามกลางบรรยากาศเรียบง่าย พร้อมแฝงกลิ่นอายความ Cozy ด้วยไม้สนสีอ่อน ตัวร้านถูกรายล้อมด้วยกระจกใสรอบด้าน เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาสร้าง ความอบอุ่นระหว่างวัน ในขณะเดียวกันก็จะได้สัมผัสถึงกลิ่นหอมที่คลอเคล้าด้วยเสียงคั่วกาแฟ สะท้อนความมีชีวิตชีวา อบอุ่น และเป็นกันเอง 

Name : Sarnies Roastery
Hours : 7.30 - 17.00 น.
Location : ซอยต้นสน เพลินจิต
Contact Info :
- Tel. : 02-003-7592
- Facebook : Sarnies Bangkok

---

Peace Oriental Tea House

ร้านชา 1 ในดวงใจของใครหลายคน ที่นำเสนอการชงชาตะวันออกอย่างจีนและญี่ปุ่น ผ่านวัฒนธรรมการชงชาสไตล์ Zen ภายในร้านที่เน้นการตกแต่งด้วยงานไม้ และ Lighting ที่ทำให้เกิดความ Harmony ของโทนสี ท่ามกลางบรรยากาศอันวุ่นวายของซอยอารีย์ เพียงแค่คุณมาที่นี่ ก็จะได้พบเจอกับความ Peaceful สมกับชื่อร้าน 

Name : Peace Oriental Tea House
Hours : 8.00 - 18.30 น.
Location : อารีย์ซอย 1
Contact Info :
- Tel. : 062-389-3578
- Facebook : Peace 和 oriental teahouse - Ari soi 1

---

Toby's Saladaeng

Toby's at Saladaeng อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่รักการทานบรันช์ดีๆ ที่ไปง่ายเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ร้านอยู่ไม่ไกลจากทั้ง MRT และ BTS โดยสาขาที่ 2 นี้ยังอยู่ในอาคารเดียวกับโรงแรม The Cotton Saladaeng อีกด้วย

บรรยากาศร้านมีความมินิมัล อีกทั้งยังเลือกใช้สี Muted Tone ที่เน้นความเรียบง่าย สบายตา อบอุ่นเป็นหลัก ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนที่สร้างฟิลลิ่งให้ ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น รวมถึงยังเปิดให้เห็นภาพบบรรยากาศความร่มรื่นของต้นไม้และเหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปมา เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับร้านแห่งนี้ 

Name : Toby’s Saladaeng
Hours : 9.00 - 17.00 น.
Location : ชั้น G The Cotton Hotel
Contact Info :
- Tel. : 02-121-4954
- Facebook : @tobysatsaladaeng 

---

Babyccino

ตั้งอยู่ภายในคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ใจกลางเอกมัย ที่มาในคอนเซปต์ Craft and Sustainability ตกแต่งในสไตล์ European Luxury Minimal แต่เฟอร์นิเจอร์ภายในร้านทั้งหมดจะเป็นงาน Handcraft ของคนไทย และมาพร้อมกับเมนูอาหารสไตล์โฮมเมดที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี และ Specialty Drinks หลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกทานท่ามกลางบรรยากาศสุด Homey ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ 

Name : Babyccino
Hours : 8.00 - 18.00 น.
Location : ซอยเอกมัย 12
Contact Info :
- Tel. :080-362-4965
- Facebook : Babyccino

---

JOSH KAFFA

JOSH KAFFA ร้านกาแฟที่นำเสนอตัวเองในรูปแบบของ The Boutique Espreesso Bar ที่อยากเป็นศูนย์รวมความชอบของคอกาแฟให้ได้แวะเวียนมา โดยทางร้านได้ร่วมมือกับโรงคั่ว M Presso นำเสนอหลากหลายเมนูสุดพิเศษจากเมล็ดกาแฟพันธุ์ดี บรรยากาศร้านที่ออกแบบสไตล์ Copenhagen ผสมผสานสีเทา เขียวอมฟ้า ตัดด้วยสีน้ำตาลของพื้นไม้ เป็นแนวการตกแต่งที่ผสมความ Cozy และ Classic ได้อย่างลงตัวกลมกล่อม รวมถึงการจัดวาง เฟอร์นิเจอร์แบบเป็นสัดส่วนให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น
 

ทางร้านมีกาแฟให้เลือก 2 แบบได้แก่ Italian ที่จะให้รสชาติกลมกล่อมในโทนช็อกโกแล็ต และ 3rd Wave ที่ให้ความสดชื่นในโทนฟรุ๊ตตี้ หากใครไม่ดื่มกาแฟสามารถสั่งแบบไม่ใส่กาแฟได้เช่นกัน

Name : Josh Kaffa
Hours : 9.00 - 18.00 น.
Location : อารีย์ซอย 4 ฝั่งเหนือ
Contact Info :
- Tel. : 092-284-0461
- Facebook : joshkaffa

---

H dinging

Home Café ย่านสุขุมวิท ที่หลายคนหลงรักในความสงบ กับเมนูอาหารที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความอร่อย ไม่ว่าจะเป็น Bakery หรือ All Day Breakfast ที่ทำให้คุณสามารถนั่งทำงานอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน ภายใต้บรรยากาศสบายๆ จากการตกแต่งร้านสไตล์มินิมอลที่เน้นการใช้สีโทนขาวตัดกับสีน้ำตาลอ่อน เข้ามาช่วยเสริมให้รู้สึกถึงความ Homey เหมือนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่บ้าน

Name : H dining
Hours : 8.00 - 20.00 น.
Location : ซอยสุขุมวิท 38
Contact Info :
- Tel. : 02-058-2699
- Facebook : H dining

---

Tangible Bangkok

Tangible Bangkok พื้นที่เชื่อมผู้คนกับศิลปะได้อย่างลงตัว ภายในคาเฟ่ ที่ถูกคิดมาอย่างตั้งใจในทุก ๆ ส่วนตั้งแต่แนวคิด วัสดุ และฟังก์ชันหลากหลาย แก่นหลักของร้านคือ หยิบสิ่งธรรมดามาทำให้ไม่ธรรมดา เราสนใจกับกระบวนการความคิดสร้างสรรค์มากกว่าใช้วัสดุ
 

เมื่อเราเริ่มเปิดประตู ร้านชั้น 1 เข้ามา ก็ได้ความรู้สึก Future Realistic เหมือนเข้าสู่โลกเหนือจินตนาการ ด้วยแมททีเรียลโลหะ สแตนเลส และอะลูมิเนียม บวกกับโทนเข้มสีเทามันวาว ที่ชวนให้ความรู้สึก เหมือนท่องอยู่ในโลกอนาคต แต่พอเดินขึ้นไปชั้นบน “Holocene” Design Episode ล่าสุดของ Tangible ทางร้านได้นำเสนอ คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากช่วงเวลาปลายปี เดือนแห่งการเดินทางเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้นึกถึงบรรยากาศความหม่นของแสงแดด
 

พร้อมรองรับให้ทุกคนแวะเวียนกันมาเสพงานศิลป์ ใช้เวลาไปกับสิ่งรอบตัว ๆ เพื่อต่อยอดจินตนาการจาก ‘ความดิบ’ ของทุก ๆ มุมภายในร้านได้อย่างเพลิดเพลิน

Name : Tangible Bangkok
Hours : 9.00 - 18.00 น. / 9.00 - 19.00 น. (weekend)
ร้านปิดวันอังคาร
Location : ซอยมาตานุสรณ์ ปากซอยเจริญกรุง 82
Contact Info :
- Tel. : 081-376-0402
- Facebook : Tangible

---

FICS

คาเฟ่สำหรับ Film Lover ที่ทำขึ้นเพื่อให้คนรักหนังได้มีพื้นที่มานั่งคุยกัน โดย FICS ย่อมาจาก F = Film / I = Inspired / C S - Coffee, Concept Store, Community Space ซึ่งภาพรวมทุกอย่างของร้านก็ได้นำเสนอความเป็น Film Lover ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านที่ดูคล้ายกับโรงหนัง มีตู้ถ่ายรูป Sculpture x FICS Photoautomat ในธีมจากภาพยนตร์เรื่อง Amélie หรือแม้แต่เมนูอาหารก็ยังคงครีเอตล้อไปกับคอนเซปต์หนัง และใช้การตกแต่งออกมาในโทนสีขาวเรียบง่ายสไตล์มินิมอลควบคู่ไปกับความคลาสสิกของโรงหนังวินเทจ ที่ไม่ว่ามุมไหนของร้านก็ดู Photogenic ไปทุกมุม

Name : FICS
Hours : 7.30 - 17.30 น.
Location : ซอยสุขุมวิท 31
Contact Info :
- Facebook : FICS

จะสิ้นปีแล้วเที่ยวได้! ถึงเวลากางปฏิทินเตรียมใบลา ปักหมุดออกเดินทางไปชาร์จแบตให้ตัวเองกันหน่อย แต่เป็นกันไหมที่หลายครั้งอยากไปสร้างแลนด์มาร์คใหม่ พอถึงเวลาเตรียมตัวจองทีไร ดันกลับไปเที่ยวที่เดิมทุกครั้ง วันนี้เรามาดูกันว่า ทำไมประเทศยอดฮิตเหล่านี้ถึงมีนักท่องเที่ยวกลับไปเที่ยวซ้ำไม่รู้เบื่อ

​เการักที่เกาหลี

‘อปป้า ซารางเฮ’ ดั้งเดิมเราเริ่มไปเที่ยวเกาหลีเพราะอปป้าในซีรีย์ ตามรอยฉากดังสุดฟินต่างๆ แต่กลับมาแล้วมันไม่จบง่ายๆ เพราะเกาหลีมีดีมากกว่าละคร  ยิ่งอาหารการกินนี่เพลินทั้งวัน สามชั้นย่าง ข้าวยำบิบิมบับ ไปจนถึงคาเฟ่เก๋ๆ ดีไซน์สวยๆ ไปเที่ยวหน้าหนาวช่วงนี้ ยิ่งฟิน สายกินก็เพลิน สายละครก็ฟิน ส่วนสายช้อปยิ่งใจเต้น เพราะแฟชั่นเกาหลีเขาก็ไม่เบานะจ๊ะ

อาริงาโตะ ขอกลับไปอีกเดส! 

ใครไปญี่ปุ่นแล้วไม่อยากไปอีกบ้าง ไม่มีแน่นอน! ด้วยความเป็นระเบียบของบ้านเมืองและความน่ารักของผู้คน พร้อมทั้งบรรยากาศสุดพิเศษของทั้ง 4 ฤดู ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ จนกลับไปเก็บให้ครบทุกเมืองทุกฤดูกาล ถ้ากำลังคิดจะไปญี่ปุ่นช่วงนี้อย่ารีรอ ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ซดราเมนร้อนๆ คลายหนาว หรือจะซูชิ ซาซิมิสดๆ คิดแล้วก็... จองตั๋วกัน!

ไฮแฟชั่นไง ที่ปารีส

จุดหมายในฝันของหลายคนที่ชีวิตนี้ต้องไปเที่ยวให้ได้ก็ต้อง ‘ยุโรป’ มนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรม ผู้คนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ทำให้หลายคนกลับไปไม่รู้เบื่อ และหนึ่งในเมืองฮิตที่คิดจะไปเที่ยวแถบนี้ควรไปที่สุดก็ต้อง “ปารีส” ฝรั่งเศส เพราะที่นี่มีจุดท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะสายช้อปห้ามพลาด แบรนด์ราคาดีงาม หรือไอเทมเด็ดที่ตามหา อาจหาเจอที่นี่!

เดินเพลินกลางกรุงโรม

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว มันจะอลังการขนาดไหน ต้องไปชมกับตาให้ได้ สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่สวยงามตาโต ที่บอกถึงความเฟื่องฟูในอดีตได้เป็นอย่างดี โรมยังเป็นหนึ่งในเมืองโรแมนติก ที่ตึกรามบ้านช่องสวยงามแตกต่างตามฤดูกาล ไปซัมเมอร์ก็คูล ไปหน้าหนาวตอนนี้ก็ยิ่งสวย

ใครไม่เยี่ยม เบลเยียม

อีกประเทศที่กำลังเป็นจุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวเมื่อเริ่มกางแผนไปเยือนยุโรป เพราะเบลเยียมมีจุดแลนด์มาร์กมากมาย และยังเด่นดังกับ waffle และเบียร์ผลไม้ หลายคนชอบในความชิล แค่เดินเล่นชมตึกสวยๆ แวะจิบกาแฟพลางมองดูผู้คนเดินไปมา ก็อิ่มใจจนประทับใจ อยากกลับไปสโลไลฟ์ที่นั่นอีกครั้ง