กรุงเทพฯ, 25 กันยายน 2568 - บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ร่วมกับเซ็นทรัล รีเทล ชวนสมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ช้อปสนุกสุดคุ้มกับ “Central Retail X T1 Magical Day” ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 - 13 ตุลาคม 2568 เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไขที่ร้านค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทลที่ร่วมรายการ เลือกรับสุดคุ้มได้ถึง 2 แพ็ก แพ็กแรก XL Pack รับ Magic e-Voucher มูลค่า 1,000 บาทและ CRC Exclusive Pack รวม 3,660 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน 4,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป และแพ็กที่สอง S Pack รับ Magic e-Voucher มูลค่า 200 บาท และ CRC Exclusive Pack รวม 840 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน 1,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป (จำกัด 1 สิทธิ์ต่อหมายเลขบัญชีบัตรหลักตลอดรายการ รวม 2,500 สิทธิ์ สำหรับแต่ละแพ็ก) เพียงลงทะเบียนรับสิทธิ์ก่อนทำรายการผ่านแอป UCHOOSE ค้นหาพิมพ์ CRCT1 เริ่มลงทะเบียน 1 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ข้อมูลเพิ่มเติม www.centralthe1card.com (เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด) ทั้งนี้ บัตรเครดิต: ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี 

บริษัทขอแจ้งยกเลิกช่องทางการชำระเงินผ่านกรุงศรี ออนไลน์ (Internet Banking) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ท่านยังคงสามารถชำระเงินผ่านช่องทางอื่นๆ ของธนาคารกรุงศรีได้ตามปกติ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการบัตร หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ตารางแสดงอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม >> คลิก

บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เปิดภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่
โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ “พอยท์แบบใหม่ ให้ได้มากกว่า”

 

กรุงเทพฯ – 9 กรกฎาคม 2568 : บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน พลิกโฉมภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมสิทธิประโยชน์และพอยท์รูปแบบใหม่ที่ให้มากกว่าเดิม รุกขยายตลาดเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มลูกค้า เปิดตัว “บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน” โฉมใหม่ ดีไซน์ทันสมัย เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ครบทุกไลฟ์สไตล์ ยกระดับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ มอบคะแนน The 1 สูงสุด 4 เท่า, ส่วนลดสูงสุด 10% ทั้งกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ “T1 Dynamic Points พอยท์แบบใหม่ ให้ได้มากกว่า” มอบคะแนนเดอะวันมากกว่าที่เคย ทุกวันที่ 15 ของเดือน กับหมวดสินค้าหรือแบรนด์ที่อยู่ในกระแสนิยม ที่ร่วมรายการในแต่ละเดือน พร้อมสิทธิพิเศษที่โรงแรมในเครือ Centara และ SALA เติมเต็มทุกมิติไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งเป้าสมัครบัตรใหม่ 100,000 บัญชี ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 10% ภายในปี 2568

 
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ เปิดเผยว่า “ปี 2568 นับเป็นก้าวสำคัญของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ในฐานะผู้นำตลาดบัตรเครดิตร่วม โดยกลุ่มเซ็นทรัล ได้แต่งตั้งบริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ภายใต้กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ต่อเนื่องไปอีก  8 ปี เพื่อร่วมกันพัฒนาบริการทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นแห่งความร่วมมือใน พ.ศ. 2541 ทั้งสองกลุ่มบริษัทได้ร่วมกันขยายธุรกิจให้เติบโต เริ่มต้นจากบัตรเซ็นทรัล คาร์ด ที่มีจำนวนผู้ถือบัตรเพียง 15,000 ใบ จนพัฒนาเป็นบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้ถือบัตรกว่า  900,000 ใบ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ กว่า 125,000 ล้านบาท(ข้อมูล ณ สิ้นปี 2567 )บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เป็นมากกว่าบัตรเครดิตร่วม โดยส่วนแบ่งตลาดของเราในปัจจุบันสูงถึง 5.5% ของตลาดบัตรเครดิต และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่เติบโต 3 เท่า เทียบกับพ.ศ. 2560 การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่และการเปิดตัวบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวันโฉมใหม่ในครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ เพื่อสร้างสรรค์เพย์เมนต์ โซลูชั่นซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของลูกค้าได้ตรงใจยิ่งขึ้น และสร้างความเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับพันธมิตรหลักของเรา”
 


นายชีวิน ปราชญานุพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวเสริมว่า “การปรับภาพลักษณ์ใหม่ของ บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ในครั้งนี้ เน้นดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น ทันสมัย สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น โดยมุ่งสร้างการรับรู้ถึงจุดยืนของแบรนด์ ในฐานะผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทุกมิติของชีวิต โดยการนำจุดแข็งจากการที่เรามีพันธมิตรหลักอย่าง Central Group และ  The 1 ซึ่งเป็น Loyalty Platform อันดับต้นของประเทศ มาสร้างสรรค์ฟีเจอร์ใหม่  “T1 Dynamic Points พอยท์แบบใหม่ที่ให้มากกว่า” มอบคะแนนเดอะวันมากกว่าที่เคย ทุกวันที่ 15 ของเดือน บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน นับเป็นบัตรเครดิตใบแรกในประเทศไทยที่ให้คะแนนได้ในลักษณะนี้ โดยออกแบบให้สามารถให้คะแนนพิเศษในแต่ละหมวดสินค้าหรือแบรนด์ที่เราคัดสรรมาว่ากำลังเป็นที่นิยมในช่วงนั้นๆ เพื่อตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายที่ดียิ่งขึ้นเพื่อสมาชิกบัตร  นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์หลักเช่นเดิม เช่น คะแนน The 1 สูงสุด 4 เท่า, ส่วนลดสูงสุด 10% ทั้งกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล พร้อมเพิ่มสิทธิพิเศษที่โรงแรมในเครือ Centara และ SALA ทั้งนี้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ได้ออกแคมเปญสื่อสารแบรนด์และโฆษณาชุดใหม่ Everything has a Point – มีพอยท์ใช้อะไรก็มีเหตุผล ถ่ายทอดเรื่องราวของบัตรโฉมใหม่ ที่ให้คุณใช้ชีวิตครบทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าใช้จ่ายอะไรก็มีเหตุผล เพราะได้พอยท์ที่คุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม สามารถติดตามได้ทางช่องทาง www.facebook.com/CentralThe1CreditCard”  



“บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน” โฉมใหม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ชูสิทธิประโยชน์เหนือระดับ มอบคะแนน The 1 สูงสุด 4 เท่า, ส่วนลดสูงสุด 10% ทั้งกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล  พร้อมสิทธิพิเศษที่โรงแรมในเครือ Centara และ SALA เติมเต็มทุกมิติของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ “T1 Dynamic Points พอยท์แบบใหม่ ให้ได้มากกว่า” มอบคะแนนเดอะวันมากกว่าที่เคย ทุกวันที่ 15 ของเดือน กับหมวดสินค้าหรือแบรนด์สุดพิเศษที่ร่วมรายการในแต่ละเดือน เช่น โปรโมชั่นพิเศษ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 มอบคะแนนเดอะวันถึง 20 เท่า โดย ไม่จำกัดสิทธิ์ สำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ตามเงื่อนไขในช้อปได้ทุกแบรนด์ที่แผนก Luxe Galerie ที่เซ็นทรัลชิดลม และ หมวดสินค้า Luxury  ร้านค้าในแผนก Contemporary Fashion ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาที่ร่วมรายการ และแผนก Luxe Galerie ที่เซ็นทรัลชิดลม เป็นต้น (จำกัดคะแนนเดอะวันพิเศษสูงสุด 100,000 คะแนนต่อหมายเลขบัตรหลัก ตลอดรายการ) โดยสมาชิกบัตรสามารถติดตามสินค้าที่ร่วมรายการในทุกวันที่ 15 ของเดือนจากสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท เงื่อนไขเพิ่มเติม ติดตามได้จาก www.centralthe1card.com ผู้ที่สนใจสามารถสมัครบัตรใหม่ได้ทั้งทางแอป UCHOOSE และ The 1  (สิทธิพิเศษตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568) ทั้งนี้ บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี 

“บริษัท คาดว่า ภาพลักษณ์แบรนด์และสิทธิประโยชน์ที่โดดเด่นของบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน โฉมใหม่ ช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร ให้สมาชิกใช้บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ในฐานะบัตรเครดิตหลักที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยขยายฐานลูกค้าของเราให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยนอกจากกลุ่มลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มวัยทำงานที่มีรายได้สูงแล้ว บริษัทยังตั้งเป้าจะดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่  ที่มองหาบัตรเครดิตที่ให้สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในครบครัน  กลุ่มที่เริ่มมีเครดิตและกำลังมองหาบัตรแรกในชีวิต โดยตั้งเป้าภายในปี 2568 จะมียอดสมัครบัตรใหม่ 100,000 บัญชี สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปีนี้ นับว่าเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2568 มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน 62,400 ล้านบาทหรือเติบโต 5%  เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ร้านค้าในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปนับว่าเติบโตได้ดี โดยหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรที่มียอดเติบโตสูงสุด 3 อันดับแรกในช่วงครึ่งปีแรก ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ได้แก่ 1.เซ็นทรัลออนไลน์ , 2.ร้านอาหารในเครือ CRG, 3.ไทวัสดุ สำหรับหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรอื่นๆนอกเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่เติบโตสูงสุด ได้แก่ 1.การเงินการลงทุน, 2.แพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์, 3. ประกันภัย ทั้งนี้ ภายในปี 2568 บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 137,000 ล้านบาทเติบโต 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา” นายชีวิน กล่าวสรุป
 

บริษัทไม่มีนโยบายรับชำระเงินผ่านช่องทางบัญชีส่วนบุคคลหรือผ่านลิงก์รับชำระเงินใดๆ

บริษัทไม่มีนโยบายรับชำระเงินผ่านช่องทางบัญชีส่วนบุคคลหรือผ่านลิงก์รับชำระเงินใดๆ กรณีที่ท่านได้รับการติดต่อแจ้งให้ชำระยอดหนี้ค้างบัตรเครดิตหรือสินเชื่อ ขอให้ท่านสอบถามข้อมูลให้แน่ชัดว่าเป็นบัญชีของตนเองจริง

ท่านสามารถตรวจสอบยอดชำระบัญชีของท่านผ่านแอปพลิเคชัน UCHOOSEและสามารถชำระผ่านช่องทางการชำระเงินที่บริษัทระบุในใบแจ้งยอดบัญชีเท่านั้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อศูนย์บริการสมาชิกบัตร

แจ้งรับหนังสืองข้อมูลเครดิตประจำปีแบบ Electronic บนแอป UCHOOSE

สมาชิกผู้ใช้จะได้รับหนังสือแจ้งข้อมูลเครดิตประจำปี ในรูปแบบ Electronic ผ่านแอปพลิเคชัน UCHOOSE ทดแทนช่องทางเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและลดความเสี่ยงจากเอกสารสูญหาย

ในกรณีที่ท่านได้รับการปรับเปลี่ยนหน้าบัตรและรายละเอียดหมายเลขบัญชีระหว่างปี ท่านสามารถดูรายละเอียดข้อมูลเครดิตประจำปีของทั้ง 2 บัญชีได้ในหนังสือแจ้งข้อมูลเครดิตประจำปีฉบับเดียวกัน โดยเริ่มตั้งแต่หนังสือแจ้งข้อมูลเครดิตประจำปี 2565 เป็นต้นไป

หากท่านไม่ประสงค์รับหนังสือแจ้งข้อมูลเครดิตประจำปีผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน UCHOOSE กรุณาติดต่อศูนย์บริการสมาชิกตามเบอร์หลังบัตร

--------------------------------------

You will receive the NCB Yearly Letter in electronic form through UCHOOSE application channel instead of the current channel starting from 1 Jan 2023 onward. This is to safeguard security of your personal data and to minimize risk of documents lost.

In case your card and account number have been changed during the year, you will find the details of credit information of both accounts in the same letterthat start from the 2022 NCB Yearly Letter onward.

If you do not want to receive the NCB Yearly Letter through UCHOOSE application channel, please contact our customer contact center.

บริษัทขอแจ้งว่า ทรูมันนี่แจ้งยกเลิกช่องทางการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ทรูมันนี่ 
มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ลูกค้ายังคงสามารถชำระยอดเงินผ่านช่องทางอื่นๆ ของทรูมันนี่ได้ 
หรือสามารถชำระผ่านช่องทางรับชำระอื่นๆ ได้ตามปกติ

บริษัทขอเปลี่ยนช่องทางให้บริการติดต่อทางอีเมล โดยท่านยังสามารถสอบถามข้อมูลได้เช่นเดิม

ผ่านช่องทาง Messenger ที่สะดวกกว่า และรวดเร็วกว่าจากเจ้าหน้าที่ของเรา

ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

บริษัทขอแจ้งยกเลิกช่องทางการชำระเงินผ่านธนาคารกรุงไทย

โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ดี ท่านยังคงสามารถชำระเงินด้วยวิธีหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (Direct Debit) ของธนาคารกรุงไทย และชำระเงินผ่านช่องทางอื่นๆได้ตามปกติ โดยสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ตารางแสดงอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม คลิก

สำหรับ ลูกค้าที่สมัครรับใบแจ้งยอดบัญชีผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป บริษัทจะนำส่งใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิต / ใบรับเงิน / ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ให้ท่านผ่านแอป UCHOOSE เพียงช่องทางเดียว (ยกเลิกการส่งผ่านอีเมล)

ค่าธรรมเนียมการใช้บัตรฯเป็นสกุลเงินบาท ณ ร้านค้าที่จดทะเบียนในต่างประเทศ (Dynamic Currency Conversion) คือ ค่าธรรมเนียมการใช้จ่ายผ่านบัตรฯในสกุลเงินบาทเพื่อทำการ ซื้อสินค้า บริการ และ/หรือ การกดเงินสดที่เป็นสกุลเงินบาท ณ ร้านค้าที่จดทะเบียนในต่างประเทศ (รวมถึงร้านออนไลน์ที่จดทะเบียนต่างประเทศ) ในอัตราร้อยละ 1 ของยอดใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด

• ร้านค้าจะแสดงมูลค่าสินค้าเป็นสกุลเงินบาทซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้เห็นราคาสุทธิที่จะต้องจ่ายจริงก่อนตัดสินใจชำระค่าสินค้า
• ในกรณีซื้อสินค้าผ่านช่องทาง ออนไลน์ หรือ ผ่านทางโทรศัพท์ กับร้านค้าออนไลน์ ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ และอนุญาตให้มีการชำระเป็นสกุลเงินบาท จะเข้าข่ายในการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้จ่าย 1% เพราะเสมือนเป็นการทำรายการของร้านค้าที่ต่างประเทศ
• ถึงแม้ว่าร้านค้าออนไลน์นั้นจะเป็น website ที่ลงท้ายด้วย “.co.th” และมีการแสดงราคาเป็นสกุลเงินบาทร้านค้าออนไลน์นั้นๆอาจจะมีการจดทะเบียนร้านค้าในต่างประเทศ หรือ มีกระบวนการจ่ายเงินที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ก็เข้าข่ายที่จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 1%

• การที่ผู้ถือบัตรชำระค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิตเป็นสกุลเงินบาท (Dynamic Currency Conversion) อาจจะทำให้ราคาสินค้าที่ถูกเรียกเก็บ สูงกว่าการชำระเป็นสกุลเงินต่างประเทศ เนื่องจากร้านค้าอาจจะมีการใช้อัตราแลกเปลี่ยน (ที่ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า) ที่สูงกว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่เรียกเก็บโดยบริษัทผู้ออกบัตรเครดิต
• การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิต เช่น VISA, Mastercard เรียกเก็บผ่านบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตในกรณีที่ผู้ถือบัตร มีการใช้จ่ายตามเงื่อนไขผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิตกำหนดผู้ถือบัตรควรทำการตรวจสอบกับร้านค้าโดยศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินและค่าธรรมเนียมก่อนซื้อสินค้า / บริการ
• กรณีลูกค้าชำระค่าสินค้าในร้านค้าผ่านเครื่องรูดบัตร หรือเครื่อง EDCของธนาคารพาณิชย์ไทย จะไม่ถูกคิดค่าธรรมเนียมดังกล่าว
• กรณีผู้ถือบัตรกดเงินสดด้วยสกุลเงินบาทผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ บริษัทฯจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า3% ของจำนวนเงินที่เบิกถอนเงินสดด้วยบัตรเครดิต และ VAT7% ของค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด และค่าธรรมเนียมการใช้บัตรฯเป็นสกุลเงินบาท 1% ของจำนวนเงินที่เบิกถอนเงินสดด้วยบัตรเครดิตเป็นสกุลเงินบาท

ผู้ถือบัตรสามารถตรวจสอบรายชื่อตัวอย่างร้านค้าที่จดทะเบียนในต่างประเทศและเข้าข่ายการถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมร้อยละ1%

ตัวอย่างร้านค้าที่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม  

ข้อมูล ณ เดือน พ.ค. 2567

หมายเหตุ : รายชื่อร้านค้าเป็นเพียงตัวอย่างที่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของร้านค้า

คำถาม 1: DCC Fee (Dynamic Currency Conversion Fee) คืออะไร?

คำตอบ 1: DDCC fee คือ ค่าธรรมเนียมการใช้บัตรฯเป็นสกุลเงินบาท ณ ร้านค้าที่จดทะเบียนในต่างประเทศ หรือ Dynamic Currency Conversion fee (DCC fee) ซึ่งเรียกเก็บสำหรับรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อชำระสินค้า บริการ ที่ร้านค้าต่างประเทศ (รวมถึงร้านออนไลน์ที่จดทะเบียนต่างประเทศ) และ/หรือ การกดเงินสดที่เป็นสกุลเงินบาทผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ โดยจะเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 1 ของยอดใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด 

คำถาม 2: อัตราเรียกเก็บค่า DCC fee?

คำตอบ 2: บริษัทฯ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ในอัตราร้อยละ 1 ของยอดใช้จ่ายที่ร้านค้าต่างประเทศหรือร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ หรือยอดกดเงินสดที่ ATM ในต่างประเทศ

ตัวอย่างที่1 : จองโรงแรมทั้งในและต่างประเทศกับ เว็บไซต์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ โดยชำระเป็นสกุลเงินบาทจำนวน 3,000 บาท จะมีการเรียกเก็บ DCC fee 1% ของยอด 3,000 บาท คือ 30 บาท เนื่องจากการจองโรงแรมในประเทศกับเว็บไซต์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว

คำถาม 3: วันที่มีผล?

คำตอบ 3: บริษัทฯ ได้ประกาศผ่อนผันการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บัตรฯเป็นสกุลเงินบาท ณ ร้านค้าที่จดทะเบียนในต่างประเทศ โดยจะเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด (จากเดิมที่มีกำหนดเริ่ม 1 พฤษภาคม 2567) เพื่อให้ลูกค้าได้ศึกษาและทำความเข้าใจเพิ่มเติม ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งก่อนมีการเรียกเก็บจริง

คำถาม 4: ทำไมต้องมีการเรียกเก็บค่า DCC fee?

คำตอบ 4: การคิดค่าธรรมเนียมเป็นส่วนที่ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิต เช่น VISA, Mastercard เรียกเก็บจากบริษัทผู้ออกบัตร ในกรณีที่ผู้ถือบัตรฯมีการใช้บัตรเครดิตชำระเงินค่าสินค้าตามเงื่อนไขที่ผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิตกำหนด

คำถาม 5: วิธีการคำนวณค่า Fee ของ VISA, Mastercard

คำตอบ 5: VISA และ Mastercard คิดอัตราร้อยละ 1 ของยอดใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด

คำถาม 6: สามารถตรวจสอบ DCC fee ได้ตั้งแต่วันไหน? 

คำตอบ 6: ลูกค้าสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมได้ ณ วันที่บันทึกรายการ (Posting Date) และ ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ที่ Billing statement
คำถาม 7: ค่า DCC fee จะถูกเรียกเก็บกับบัตรเครดิตประเภทใดบ้าง?

คำตอบ 7: บัตรเครดิตวีซ่า และ มาสเตอร์การ์ดทุกประเภท ทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม

คำถาม 8: ค่าธรรมเนียม 1% คิดอย่างไร?

คำตอบ 8: คิดค่าใช้จ่าย 1% จากยอดใช้จ่าย /ยอดกดเงินสด ผ่านบัตรเป็นสกุลเงินบาท โดยคิดจากยอด ณ วันที่บันทึกรายการใช้จ่าย

คำถาม 9: การใช้จ่ายร้านค้าใดบ้างจะมีการเรียกเก็บ DCC fee ?

คำตอบ 9: ร้านค้าในต่างประเทศและเลือกชำระเป็นสกุลเงินบาท รวมถึงร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ
เช่น  FACEBOOK, AGODA, TRIP.COM, TIK TOK, GOOGLE, APPLE.COM, KLOOK, NETFLIX,VEBO/EXPEDIA เป็นต้น (ข้อมูลร้านค้าตัวอย่าง ณ เดือน พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียน ขึ้นอยู่กับร้านค้า)

คำถาม 10: ประเภทการทำรายการที่เข้าข่ายจะถูกคิดค่าธรรมเนียม 1%

คำตอบ 10:

- ร้านค้าจะแสดงมูลค่าสินค้าเป็นสกุลเงินบาทซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้เห็นราคาสุทธิที่จะต้องจ่ายจริงก่อนตัดสินใจชำระค่าสินค้า

- ในกรณีซื้อสินค้าผ่านช่องทาง online หรือ ผ่านทางโทรศัพท์ กับร้านค้าออนไลน์ ที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย และอนุญาตให้มีการชำระเป็นสกุลเงินบาท จะเข้าข่ายในการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้จ่าย 1% เนื่องจากถือว่าเป็นการทำรายการร้านค้าที่ต่างประเทศ

- ถึงแม้ว่าร้านค้าออนไลน์นั้นจะเป็นเว็บไซต์ที่ลงท้ายด้วย “.co.th” และมีการแสดงราคาเป็นสกุลเงินบาทร้านค้าออนไลน์นั้นๆอาจจะมีการจดทะเบียนร้านค้าในต่างประเทศ หรือ มีกระบวนการจ่ายเงินที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ก็เข้าข่ายที่จะถูกคิดค่าธรรมเนียม 1%)

หลักเกณฑ์การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระ

การคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ตามแนวทางใหม่

บริษัทจะเริ่มคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ตามแนวทางใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยครอบคลุมสินเชื่อดังนี้

- สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ

กรณีผิดนัดชำระหนี้ บริษัทจะคำนวณดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ตามแนวทางใหม่ ดังนี้

- อัตราดอกเบี้ยผิดนัดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามสัญญาบวกเพิ่ม 3% บนเงินต้นของค่างวดที่เกินกำหนดชำระ

ลำดับการตัดชำระหนี้แบบแนวนอน

บริษัทจะเริ่มการตัดชำระหนี้แบบแนวนอน ในวันที่ 29 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับชำระ ตัดค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และเงินต้นของยอดค้างชำระที่นานที่สุดก่อน แล้วค่อยตัดยอดที่ค้างชำระลำดับถัดมา

ทั้งนี้ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของการคำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ตามแนวทางใหม่และลำดับการตัดชำระหนี้แบบแนวนอนได้ที่ คลิก
 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการสมาชิกสินเชื่อส่วนบุคคล เซ็นทรัล เดอะวัน โทร.02-627-4999

มาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิต ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตที่ชำระหนี้ขั้นต่ำตามใบแจ้งยอดบัญชี

ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68

คำถามและข้อสงสัย
1.ถาม : ลูกค้าทุกคนจะได้รับเครดิตดอกเบี้ยคืน ใช่หรือไม่

ตอบ : ไม่ใช่ค่ะ สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตที่ชำระหนี้ขั้นต่ำมากกว่าหรือเท่ากับ 8% ของยอดเงินตามใบแจ้งยอดบัญชีระหว่าง วันที่ 1 มกราคม 2568 - 31 ธันวาคม 2568 เท่านั้น

2. ถาม : ใครบ้างที่จะได้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือนี้ และรายการประเภทใดบ้างที่จะได้รับการเข้าร่วม

ตอบ : สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตที่ชำระหนี้ขั้นต่ำตามยอดที่แสดงในใบแจ้งยอดบัญชี ระหว่างเดือนมกราคม 2568 ถึง ธันวาคม 2568 ทั้งนี้จะมีผลกับรายการที่เกิดจากการรูดซื้อสินค้าเต็มจำนวนเท่านั้น ซึ่งจะไม่รวมรายการผ่อนชำระแบบรายเดือน, การกดเงินสดแบบผ่อนชำระขั้นต่ำ และ การกดเงินสดแบบผ่อนจ่ายรายเดือน

3. ถาม : ต้องลงทะเบียนเพื่อรับเครดิตดอกเบี้ยคืนหรือไม่

ตอบ : ไม่ต้องลงทะเบียนค่ะ สามารถเข้าร่วมได้ทันทีหากเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯกำหนด

4. ถาม : ทำไมต้องมีการเครดิตดอกเบี้ยคืนให้แก่ลูกค้า 

ตอบ : ทางบริษัทฯ ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเพื่อบรรเทาภาระหนี้และให้มีสภาพคล่องยามฉุกเฉิน เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย

5. ถาม : จะมีการประกาศ แจ้งให้ทราบ ผ่านช่องทางไหนบ้าง

ตอบ : ช่องทางที่ประกาศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ได้แก่ เว็บไซต์บริษัทฯ และผ่านทาง UCHOOSE Application

6. ถาม : ในอนาคตจะมีโอกาสจะปรับเปลี่ยนหรือขยายระยะเวลาเครดิตดอกเบี้ยคืนอีกหรือไม่

ตอบ : ขึ้นกับมาตรการจากทางธนาคารแห่งประเทศไทยค่ะ ทั้งนี้ลูกค้าสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ผ่านทางเว็บไซต์บริษัทฯค่ะ

7. ถาม : หากไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ขั้นต่ำได้มากกว่าหรือเท่ากับ 8%  มีแนวทางช่วยเหลือลูกค้าด้วยมาตราการอื่นไหม 

ตอบ : สามารถติดต่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อหามาตรการที่เหมาะสมกับลูกค้าได้ที่เบอร์ 02 - 714 5155

8. ถาม : ลูกค้าจะสามารถเช็ครายการเครดิตดอกเบี้ยคืนได้ เมื่อไรและจากช่องทางไหน

 ตอบ : สามารถตรวจสอบได้จากใบแจ้งยอดบัญชี และทาง UCHOOSE Application โดยระบบจะคำนวณเครดิตดอกเบี้ยคืนภายใน 2 รอบบิล

ตารางสรุประยะเวลาที่เข้าเงื่อนไขการได้รับเครดิตดอกเบี้ยคืน

แจ้งปิดปรับปรุงระบบ
System Maintenance

www.centralthe1card.com จะทำการปิดปรับปรุงระบบ 
ตั้งแต่ วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2566 เวลา 00.00 น.
ถึง วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2566 เวลา 04.00 น.

ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
 

www.centralthe1card.com is temporarily close for System Maintenance on
From Sunday, 18 June 2023 at 00:00 hrs.
to Sunday, 18 June 2023 at 04:00 hrs

Our sincere apology for the inconvenience caused

แจ้งปิดปรับปรุงระบบ
System Maintenance

www.centralthe1card.com จะทำการปิดปรับปรุงระบบ 
ตั้งแต่ วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 เวลา 00.00 น.
ถึง วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566 เวลา 04.00 น.

ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
 

www.centralthe1card.com is temporarily close for System Maintenance on
From Sunday, 19 March 2023 at 00:00 hrs.
to Sunday, 19 March 2023 at 04:00 hrs

Our sincere apology for the inconvenience caused

แจ้งปิดปรับปรุงระบบ
System Maintenance

www.centralthe1card.com จะทำการปิดปรับปรุงระบบ 
ตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 22 ต.ค. 65 เวลา 21.00 น. ถึง วันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค. 65 เวลา 12.00 น. 
และ
วันเสาร์ที่ 5 พ.ย. 65 เวลา 23.00น. ถึง 6 พ.ย. 65 เวลา 13.30 น.

ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
 

www.centralthe1card.com is temporarily close for System Maintenance on
From Saturday, 22nd October 2022 at 21:00 hrs. to Sunday, 23rd October at 12:00 hrs.
And
from Saturday, 5th November 2022 at 23:00 hrs. to Sunday, 6th November 2022 at 13:30 hrs.

Our sincere apology for the inconvenience caused

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านการคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย  – CAC AWARD 2023

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ รับมอบประกาศนียบัตร เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3

“กรุงศรีคอนซูมเมอร์”เข้าเป็นสมาชิกสมบูรณ์แบบองค์กรร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน

กรุงเทพฯ, 28 กุมภาพันธ์ 2557 – กรุงศรี คอนซูมเมอร์ กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อผ่อนชำระ และโบรกเกอร์ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยในเครือกรุงศรี ได้รับประกาศนียบัตรรับรองการเป็นสมาชิกสมบูรณ์แบบของแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน  (Collective Action Coalition Against Corruption หรือ CAC)  
          นายฐากร ปิยะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด หรือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ กล่าวในงานรับประกาศนียบัตรว่า “บริษัทรู้สึกภูมิใจที่ได้รับการรับรองการเป็นองค์กรเอกชนไทยที่ร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันจาก CAC เพราะธุรกิจของเราเป็นธุรกิจการให้บริการทางการเงินที่ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของผู้บริโภคเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินธุรกิจ บริษัทจึงยึดมั่นในความถูกต้อง โปร่งใส และรับผิดชอบต่อสังคม โดยจัดโครงสร้างองค์กรให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ร่วมป้องกันและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น และปฏิเสธการให้สินบนและรับสินบนอย่างเคร่งครัด โดยยึดถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของธุรกิจ การได้รับประกาศนียบัตรรับรองนี้จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท ทั้งผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และพนักงานได้เห็นอย่างชัดเจนว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการงานในทุกขั้นตอนให้ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชันและเป็นไปตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี เพื่อผลักดันและสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมธุรกิจที่สูงขึ้น”